ปัญหา การยิงปืนบอกเวลาเที่ยงนั้นมีมาแต่ครั้งใด? ได้แบบอย่างมาแต่ไหน?
ตอบ เรื่องยิงปืนบอกเวลานี้มีมานานแล้ว เดิมทีเดียว ที่ป้อมมุมพระราชวังมีปืนใหญ่ประจุอยู่สี่ป้อมเสมอ ป้อมละกระบอก เป็นปืนสัญญา ตามที่เห็นด้วยตาตนเองนั้น มีอยู่กะบอกหนึ่งที่ป้อมมุมวัดพระเชตุพน ปืนนั้น ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นเช้าตรู่ ยิงทุกวัน กล่าวกันเป็นสองนัย นัยหนึ่งว่า เป็นการเปลี่ยนดินปืน แต่ว่าตามความคิดเห็นว่า ที่จริงนั้น เป็นสัญญาเปิดประตูวังที่ปิด เพื่อลดหย่อนการพิทักษ์รักษาพระราชวังในเวลากลางคืน ที่ยิงปืนนั้นเพื่อให้ได้ยินพร้อมกันทุกด้าน อีกนัยหนึ่งนั้น เป็นสัญญาบอกเมื่อไฟไหม้ ถ้าไฟไหม้นอกพระนคร ยิงนัดเดียว ถ้าไฟไหม้ในพระนคร ยิงสามนัด ถ้าไฟไหม้ในพระราชวัง ยิงต่อ ๆ ไปหลายนัดจนไฟดับจึงหยุด เป็นธรรมเนียมดังนี้
มีธรรมเนียมอีกอย่างหนึ่งเป็นของคู่กันที่เป็นส่วนสำหรับพระนคร เข้าใจว่า ได้มาจากเมืองจีน ไทยเรามีมาแล้วแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา แม้เรื่องยิงปืนก็คงมีมาก่อนแต่ครั้งกรุงเก่า ประเพณีของพระนครที่คู่ไปกับยิงปืน ก็คือ ตีกลอง เดิมมีหอกลองอยู่ที่หน้าวัดพระเชตุพนหอหนึ่งเป็นสามชั้น แขวนกลองสามใบใหญ่และย่อมขึ้นไปเป็นลำดับกัน กลองใบใหญ่อยู่ชั้นล่าง เรียกชื่อว่า ย่ำพระสุรศรี สำหรับตีเวลาพระอาทิตย์ตก เป็นสัญญานให้ปิดประตูพระนคร ใบชั้นกลางชื่อ อัคคีพินาศ สำหรับตีเมื่อเกิดไฟไหม้ เป็นสัญญาเรียกราษฎรให้ช่วยกันดับไฟ ดูเหมือนมีกำหนดว่า ไฟไหม้นอกพระนคร ตีสามครั้ง ถ้าไฟไหม้ในพระนคร ตีมากกว่านั้น กลอง