หน้า:ลัทธิฯ (๒๓) - ๒๔๗๓.pdf/26

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๐

มารดาผู้ปกครองฝ่ายหญิงเชิญแขกให้เข้าบ้านนั่งพักรับประทานน้ำชา เถ้าแก่ก็ยื่นเทียบที่ฝ่ายชายส่งขนมต่าง ๆ มา เมื่อบิดามารดาฝ่ายหญิงได้ตรวจนับรับได้ถูกต้องแล้ว จึงจัดเอาข้าวพองแผ่นใหญ่ ถั่วตัดแผ่นใหญ่ กับขนมอีกหลายสิ่ง และกระเป๋าผ้าใบ ๑ บรรจุเงิน ๒๐ เหรียญ แล้วเอาพรรณธัญญาหาร (คำจีนเรียกว่า เจ๋งจี๊) กับกิมยู่อี่ รูปคล้ายช้อน ทำด้วยทองคำ อีก ๑ อัน หมวกใบ ๑ ถุงเท้ารองเท้าอย่างละคู่ บรรจุลงในกระเป๋าใบนั้นด้วย สิ่งของเหล่านี้มอบฝากเถ้าแก่เอาไปให้บิดามารดาผู้ปกครองฝ่ายชาย

ระยะที่ ๔ ซึ่งเรียกว่า สั่งเพี่ย นั้น (แปลว่า ส่งเงินสินสอด) ในครั้งนี้ บิดามารดาผู้ปกครองฝ่ายชายจัดเงินอีก ๑๐ ตำลึงให้เถ้าแก่นำไปให้บิดามารดาฝ่ายหญิงอีกครั้ง ๑ เงินสินสอดตามประเพณีกำหนดไว้ ๒๐ ตำลึง แต่นำส่งเป็น ๒ คราว คราวละ ๑๐ ตำลึง คือ ส่งในคราวพิธีระยะที่ ๒ คราว ๑ กับระยะที่ ๔ อีกคราว ๑ หาได้นำส่งในคราวเดียวให้เสร็จไม่ เงินสินสอดที่ส่งไปในครั้งนี้ก็ต้องเอาใบทับทิม และชุนเช้า (คือ หญ้าสด) ดอกจือลั้ง ดอกไม้ต่าง ๆ ซึ่งเป็นมงคล เคล้ากับเงินสินสอดและขนมต่าง ๆ อีกจำนวน ๑ มอบให้เถ้าแก่นำไปให้บิดามารดาผู้ปกครองฝ่ายหญิง ถ้าเจ้าสาวมีสาวใช้อยู่ด้วยแล้ว ฝ่ายเจ้าบ่าวจะต้องเพิ่มเงินอีก ๑๐ ตำลึงส่งไปให้ในครั้งนี้ด้วยกัน นอกจากเงินสินสอดกับสิ่งของแล้ว จะต้องมีหนังสือฮุนจือ (หนังสือบริคณห์อาวาหะ) ใช้กระดาษแดงเขียนตัวทองลงนามกับวันเดือนปีเกิดของ