หน้า:ลัทธิฯ (๒๓) - ๒๔๗๓.pdf/33

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๗

เจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้านั่งรับประทาน ส่วนการเลี้ยงแขกมิได้เลี้ยงกันในวันนี้ ไปเลี้ยงกันในวันรุ่งขึ้น ถ้าเทียบกับพิธีของไทย วันนี้ต้องเป็นวันที่เรียกว่า สุกดิบ เมื่อเถ้าแก่แม่สื่อเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้านั่งโต๊ะ แม่สื่อต้องอยู่ข้างเคียงคอยปฏิบัติเจ้าสาว คือ รินสุรา ๒ ถ้วย และหยิบอาหารวางไว้ที่ภาชนะตรงหน้า เจ้าบ่าวรับประทานสิ่งใดก็หยิบตาม แต่เจ้าสาวเวลานั้นยังมีแพรแดงปิดหน้าอยู่หาได้ปลดออกไม่ เพราะมีความกระดาก ทั้งอาหารที่แม่สื่อหยิบวางไว้ก็หาได้รับประทานไม่ ขณะที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวนั่งโต๊ะอยู่นั้น วงศ์ญาติและเพื่อนบ้านพากันมามุงดูจนเต็มที่ ส่วนแม่สื่อก็หยิบกับแกล้มแล้วก็ซวยะสี่กู่เรื่อยไป พอได้เวลา เถ้าแก่ก็นำเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้อง เวลาที่เข้าห้องจะต้องรับประทานยิบปั้งอี๊ (ขนมกลมเกลียวเข้าห้องกัน) คนละถ้วย เถ้าแก่แม่สื่อพาเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าไปอยู่ในห้องและให้ศีลให้พร แล้วก็รีบออกจากห้องทันที ส่วนผู้คนที่ฝ่ายหญิงให้แบกหามเข้าของมานั้น ฝ่ายชายจักต้องแจกของชำร่วยให้ทุกคน

คืนที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวอยู่ด้วยกันในห้อง ถ้าเป็นคนสามัญ มักมีเพื่อนฝูงเข้าไปกระทำการรบกวนอยู่ในห้องมิให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวหลับนอน คือ เข้าไปตั้งวงเล่นไพ่หรือสัพยอกหยอกเย้าต่าง ๆ

วันรุ่งขึ้น เถ้าแก่จัดแจงพาเจ้าบ่าวเจ้าสาวไปไหว้บิดามารดาและญาติอันสนิท แล้วจึงพาไปไหว้ที่บูชาปู่ย่าด้วยเครื่องขนม เรียกว่า ก๋วยเทีย (ห้องบูชาขนม) ครั้นกระทำพิธีไหว้เสร็จแล้ว