หน้า:ลัทธิฯ (๒๓) - ๒๔๗๓.pdf/8

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

และชื่อเสียง เพื่อจะวางพิธีการแต่งงานเป็นระยะถ่วงเวลาให้ช้าวัน จึงมีกำหนดลัทธิตั้งแต่เริ่มสู่ขอจนถึงวันแต่งงานเป็น ๖ ตอนด้วยกัน คำจีนเรียกว่า “ลักเล้ย” แต่ลัทธิลักเล้ยนี้นิยมใช้กันแต่ครั้งโบราณ ตกมาถึงสมัยราชวงศ์เช็งเฉียว ความนิยมได้เปลี่ยนแปลงไป จึงย่อลัทธิบางประเภทเสียบ้างเพื่อสะดวกแก่พิธี แม้กระนั้น ก็ยังถือว่า เป็นขนบธรรมเนียมอย่างโบราณอยู่ตลอดมา จนถึงสมัยเก็กเหม็งล้มราชวงศ์เช็งเฉียวเปลี่ยนวิธีการปกครองเป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๕๕ มาจนปรัตยุบันนี้ ความนิยมค่อยเปลี่ยนไปในความเจริญของชาวตะวันตก เอาธรรมเนียมการแต่งงานอย่างฝรั่งมาใช้ แต่ก็ยังเป็นส่วนน้อยไม่แพร่หลาย มักมีแต่ฉะเพาะพวกนักเรียนกับพลเมืองในท้องที่ที่มีความเจริญแล้วเท่านั้น

การแต่งงานเป็นสามีภรรยากันนั้น ตามหนังสือชื่อ ฮุนอินงี่เล้ย บัญญัติไว้ว่า หญิงต้องมีอายุพ้น ๑๕ ปี ชายต้องมีอายุพ้น ๒๐ ปี จึงควรแต่งงานมีเหย้าเรือนได้ หญิงชายที่จะแต่งงานกัน กำหนดระยะเวลาตั้งแต่เริ่มสู่ขอจนกว่าจะถึงวันแต่งงานเป็นชั้น ๆ ดังนี้ คือ เจ้าแผ่นดินภายในปี ๑ เจ้าประเทศราชภายใน ๖ เดือน เสนาอำมาตย์ภายใน ๓ เดือน ราษฎรสามัญภายใน ๑ เดือน การกำหนดเขตต์แต่งงานนี้ จะได้เลิกล้มเสียเมื่อครั้งราชวงศ์เช็งเฉียวหรือแผ่นดินใดก่อนราชวงศ์นี้ ยังไม่พบหลักฐาน ด้วยปรากฎว่า ประเพณีของชาวเตี้ยจิว มณฑลกวางตุ้ง ไม่มีกำหนดกัน แล้วแต่ความสะดวก จะแต่ง