หน้า:สนทนากับผู้ร้ายปล้น - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๖๘.pdf/42

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๑

ตอบว่า ต้องบอกให้เขารู้ถ้วนถี่ว่า เปนกระบือมาแต่บ้านไหน บางไหน เมืองไหน และเปนกระบือของใคร เจ้าของเปนคนมีกำลังพาหนะหรือเปนแต่ราษฎรสามัญ ข้อความเหล่านี้เปนข้อสำคัญที่เขาจะต้องรู้ เขาจะได้รู้ว่า จะต้องส่งต่อไปทางไหนและต้องระวังอย่างไร ต้องบอกที่มาของกระบือให้ทราบกันต่อ ๆ ไปในพวกรับซื้อโคกระบือผู้ร้ายดังนี้จนถึงที่ไกลเห็นเกินการติดตามแล้ว จึงจะได้เอาออกใช้สอยซื้อขายเปนกระบือในท้องที่

๙๒ถามว่า ทำไมโคกระบือที่ปล้นมาจึงขายได้ราคาน้อย ส่วนโคกระบือที่ลักมาจึงขายได้ราคามาก

ตอบว่า โคกระบือที่ปล้นเพราะมีเหตุปล้นสดมภ์ เจ้าพนักงารมักจะติดตาม ถ้าเปนกระบือที่ลอบลักเอามา เจ้าพนักงารไม่ใคร่ติดตาม จึงไม่มีเหตุร้อนรนแก่ผู้รับซื้อเหมือนโคกระบือที่ปล้น อีกประการหนึ่ง โคกระบือที่ปล้นมักจะเปนคราวละมาก ๆ แต่โคกระบือที่ลักนั้นคราวละตัว ๒ ตัว แม้กำลังในพวกเจ้าของที่จะออกติดตามก็ผิดกัน

๙๓ถามว่า ถ้าเช่นนั้น ผู้ที่รับซื้อโคกระบือของผู้ร้ายก็เสมอเปนแต่คนกลางหากำไรในกระบวรรับซื้อขายเช่นนั้นหรือ

ตอบว่า เปนเช่นนั้น ผู้ที่รับซื้อโคกระบือโจรผู้ร้ายที่จะเอาไว้ใช้สอยเองเปนไม่มี เปนแต่รับซื้อไว้แล้วก็ส่งไปขายขึ้นราคาเอากำไรต่อ ๆ กันไป เพราะฉนั้น ราคาโคกระบือที่ผู้ร้ายปล้นสดมภ์หรือลักมา ถ้ายิ่งขายไกลถิ่นเดิมได้เท่าใด ก็ยิ่งได้ราคามากขึ้นทุกที ยิ่งขายใกล้ ก็ยิ่งได้ราคาน้อย