หน้า:สามก๊ก - ๒๔๔๙.pdf/1395

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
100
เล่ม ๔
สามก๊ก

อองลองได้ฟังดังนั้น ก็ควบม้ามาถึงหน้าเกวียนขงเบ้ง ต่างคนต่างคำนับกันตามธรรมเนียม แล้วอองลองจึงว่าแก่ขงเบ้งว่า ข้าพเจ้าได้ยินกิติศัพท์เลื่องฦๅชื่อท่านก็ช้านานอยู่แล้ว เราได้พบกันวันนี้ก็เปนบุญของเรา ฝ่ายตัวท่านเปนคนมีวิชารู้ขนบธรรมเนียมการแผ่นดินอยู่ เหตุใดจึงเข้าเปนพวกอ้ายคนพาลชาติ์ตํ่า ยกกองทัพมาฉนี้

ขงเบ้งได้ฟังดังนั้นจึงตอบว่า เหตุใดท่านจึงเจรจาฉนี้ พระเจ้าเล่าปี่เปนเชื้อพระวงษ์พระเจ้าเหี้ยนเต้ สั่งเราไว้ว่าให้กำจัดอ้ายพวกโจรศัตรูราชสมบัติเสียให้ได้ เราจึงยกกองทัพมา อองลองจึงว่าอันประเวณีการแผ่นดิน จะยึดเอาเปนเที่ยงนั้นไม่ได้ ผู้ใดมีวาสนามากได้สมบัติก็เรียกว่าเปนกระษัตริย์ ประการหนึ่งวงษ์พระเจ้าเหี้ยนเต้นี้ แผ่นดินก็เปนอันตรายเกิดจลาจลเนืองๆมา เมื่อครั้งพระเจ้าเลนเต้ได้สมบัตินั้น ก็เกิดโจรโพกผ้าเหลืองทำจลาจลขึ้น ราษฎรทั้งปวงก็ได้ความเดือดร้อน ครั้งพระเจ้าเหี้ยนเต้ได้ครองราชสมบัติเล่า ตั๋งโต๊ะทำหยาบช้าต่างๆ แล้วลิฉุยกุยกีก็เกิดศึกขึ้นกลางเมือง อ้วนสุดหนึ่ง อ้วนเสี้ยวหนึ่ง เล่าเปี้ยวหนึ่ง ลิโป้หนึ่ง ก็เปนขบถตั้งตัวเปนเจ้าแข็งเมืองขึ้นสิ้น ราษฎรทั้งปวงก็ไม่มีความสุข ครั้งนั้นพระเจ้าเหี้ยนเต้เหมือนไข่ตั้งอยู่บนสิลา หากว่าพระเจ้าวุยอ๋องเจ้าเรามีบุญมาก กำจัดศัตรูให้ล่าหนีเสียได้ พระเจ้าเหี้ยนเต้แลราษฎรทั้งปวงจึงได้หลับตานอนเปนศุขมากขึ้น ฝนตกตามเทศกาลระดูเสบียงอาหารก็บริบูรณ์มิได้ขัดสน

อนึ่งคำโบราณกล่าวไว้ว่า เกิดเปนคนในแผ่ดินให้พิเคราะห์ดูการ ถ้าเห็นผู้ใดมีบุญสมภารมาก ก็ให้เข้านอบนบเปนข้าอยู่ด้วยผู้นั้นจึงจะได้ความศุข แม้นขืนคำโบราณก็จะฉิบหายจนตัวตาย บัดนี้รับสั่งพระเจ้าโจยอย ให้เราคุมทหารเอกพันหนึ่ง ทหารเลวหมื่นหนึ่งยกออกมาเหมือนเพลิงไหม้ป่า พิเคราะห์ดูกอง