หน้า:สามก๊ก - ๒๔๔๙.pdf/1399

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
104
เล่ม ๔
สามก๊ก

จูหลงเห็นดังนั้นก็ยกสกัดออกมาริมทาง แล้วร้องว่าอ้ายโจรมึงจะหนีไปไหน โจจุ้นกับจูจ้านก็ตกใจรีบควบม้าฝ่าหนีออกไปจากค่าย อุยเอี๋ยนกับจูหลงก็ยกทหารไล่ตามไป ฝ่ายทหารในค่ายโจจิ๋นเห็นโจจุ้นกับจูจ้าน พาทหารควบม้าตรงเข้ามา สำคัญว่าขงเบ้งยกมาปล้น ก็จุดเพลิงสำคัญขึ้น โจจิ๋นกับกุยห้วยก็ยกทหารกระหนาบรบเข้ามา พอกวนหินเตียวเป๋ายกตามมาถึง เห็นทหารโจจิ๋นหลงฟันกันวุ่นวายอยู่ ก็บันจบกันเข้ากับอุยเอี๋ยนยกรบเข้าไปเปนสามทาง ฆ่าฟันทหารโจจิ๋นล้มตายแตกกระจัดกระจายกันไป แล้วก็กลับมาหาขงเบ้งณค่าย

ครั้นเวลาเช้าโจจิ๋นกับกุยห้วย ก็ยกทหารกลับเข้าตั้งอยู่ในค่ายดังเก่า จึงปฤกษากันว่าเราทำศึกกับขงเบ้งครั้งนี้ก็สิ้นความคิดอยู่แล้ว เราจะทำประการใดขงเบ้งจึงจะถอยกลับไป กุยห้วยจึงว่าอันการสงคราม จะหมายชะนะฝ่ายเดียวนั้นไม่ได้ ถึงจะมีฝีมือแลความคิดสักเท่าใด ก็จำจะแพ้บ้างชนะบ้าง ท่านอย่าเพ่อเสียใจข้าพเจ้าจะให้ขงเบ้งถอยไปจงได้

กุยห้วยจึงว่าเมืองเสเกี๋ยงนอกแดนเราข้างทิศตวันตกนี้ แต่พระเจ้าวุยอ๋องยังมีพระชนม์อยู่ย่อมมีไมตรีต่อกัน เคยไปนบนอบถวายเครื่องบรรณาการแก่เตียดลิเกียด เจ้าเมืองเสเกี๋ยงทุกปีมิได้ขาด ขอให้ท่านแต่งหนังสือไปถึงเตียดลิเกียดว่า ให้ยกทหารวกหลังมาตีเอาเมืองเสฉวน เมื่อสำเร็จราชการแล้ว เราจะแต่งเครื่องบรรณาการไปแทนคุณให้ถึงขนาด

โจจิ๋นได้ฟังก็เห็นด้วย จึงแต่งหนังสือฉบับหนึ่งกับเครื่องบรรณาการ ให้คนสนิทถือไปให้เตียดลิเกียดณเมืองเสเกี๋ยง ในเมืองเสเกี๋ยงนั้นมีขุนนางผู้ใหญ่สองคน ขุนนางสำหรับว่าราชการพลเรือนนั้นชื่อแงตั๋น ขุนนางฝ่ายทหารนั้นชื่อออดกิด ครั้นทหาร