หน้า:สามก๊ก - ๒๔๔๙.pdf/1431

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
136
เล่ม ๔
สามก๊ก

ไม่ก็จะพาทหารทั้งปวงตายเสีย เหมือนหนึ่งตกลงในเหว พระองค์ก็มีสติปัญญาชำนาญในการสงคราม ยังออกโอษฐ์ถึงเพียงนี้

อนึ่งข้าพเจ้ามาเห็นว่าตำบลจำก๊กนั้นเล่า ก็เปนเมืองแดนต่อแดน มีจังหวัดโดยรอบคอบทางถึงห้าพันเส้น แต่ล้วนซอกห้วยธารเขาป่าดงรกชัฏ หนทางที่จะยกพลทหารเดินขบวนทัพไปนั้นก็ยากขัดสน ซึ่งจะยกไปเห็นจะได้ความลำบากขอให้งดกองทัพไว้ก่อน จงกะเกณฑ์ทหารซึ่งมีฝีมือเปนผู้ใหญ่ คุมทหารไปตั้งรักษาด่านทางให้มั่นคงจงทุกตำบลอย่าให้สัตรูล่วงเข้ามาได้ พักศึกอยู่ปลูกเลี้ยงบำรุงทหารทั้งปวงให้มีกำลังแกลัวกล้าขึ้นไว้ คอยดูท่วงทีเมืองเสฉวนกับเมืองกังตั๋ง ด้วยเปนอริกันอยู่เห็นว่าเมืองสองเมืองนี้ ก็จะเกิดจลาจลกันขึ้นเอ็งเปนมั่นคง ฝ่ายเราเห็นได้ทีแล้ว จึงยกทหารเดินสบายเข้าไปเอาเมืองเสฉวน ก็จะได้เปรียบดีกว่ารีบไปบัดนี้อีก

พระเจ้าโจยอยจึงถามสุม้าอี้ว่า ซุนจู้ว่าดังนี้ท่านจะเห็นประการใด สุม้าอี้จึงว่าซุนจู้ว่าดังนี้ก็ชอบอยู่ พระเจ้าโจยอยก็ให้สุม้าอี้กะเกณฑ์ทหารยกไปอยู่รักษาด่านทางทุกตำบล แล้วก็ให้โกฉุยเตียวคับสองนาย คมทหารอยู่รักษาเมืองเตียงอั๋น จัดแจงบ้านเมืองสำเร็จแล้ว สุม้าอี้ก็เชิญเสด็จพระเจ้าโจยอยยกไป อยู่เมืองลกเอี๋ยงเปนเมืองหลวง

ฝ่ายขงเบ้งครั้นยกมาถึงเมืองฮันต๋งแล้ว จึงตรวจตรานายทหารทั้งปวงมิได้เห็นจูหลงกับเตงจี๋ ก็ทุกข์ใจมีความวิตกนัก พอทหารเข้ามาบอกว่า จูหลงกับเตงจี๋คุมทหารยกมาข้างหลัง ผู้ใดมิได้เปนอันตรายแต่ม้าตัวหนึ่งก็มิได้ตาย ขงเบ้งได้ฟังก็ดีใจพาทหารทั้งปวงออกมารับจูหลงเตงจี๋ถึงประตูเมือง จูหลงเห็นดังนั้นก็ตกใจโจนลงจากม้าวิ่งไปคุกเข่าลงคำนับแล้วว่า ตัวข้าพเจ้า