หน้า:สามก๊ก - ๒๔๔๙.pdf/1485

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
190
เล่ม ๔
สามก๊ก

ศุขมาช้านาน เพราะว่ามีความเอ็นดูกรุณาแก่ราษฎร มิให้ได้ความเดือดร้อน แลตัวขงเบ้งนี้เปนชาวบ้านนอกอยู่ในแว่นแคว้นแดนเมืองลำหยง ควรฤๅจะมาขืนแข่งให้เกินชาติ์ภูมิ์ของตัว บังอาจยกทหารล่วงเข้ามายํ่ายีถึงแดนเมืองเราเปนหลายครั้งมิบังควรนัก ให้ท่านเร่งคิดห้ามใจอย่าได้กำเริบ จงยกพลทหารกลับไปรักษาเมืองตามประเพณีจะดีกว่า แม้นมิกลับไปจะขืนล่วงเข้ามายํ่ายีขอบคันธเสมาให้ได้ ชีวิตร์ท่านก็จะมิได้คืนไปเมืองด้วยฝีมือทหารของเรา

ขงเบ้งได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะแล้วจึงว่า ตัวเราเปนข้าพระเจ้าเล่าปี่ พระเจ้าเล่าปี่พระราชทานเบี้ยหวัดผ้าปีชุบเลี้ยงเรามาก็ช้านาน แลเมื่อพระองค์ประชวรจะสิ้นพระชนม์นั้น ได้ตรัสสั่งไว้แก่เราว่าให้ช่วยทำนุบำรุงแผ่นดิน ของพระเจ้าเหี้ยนเต้ผู้มีคุณสืบไป ตัวเราก็ได้รับคำไว้เปนข้อใหญ่ ควรฤๅจะมานอนนิ่งเสียมิได้คิดอ่าน ทำการกำจัดสัตรูแผ่นดินดังคนหากตัญญูมิได้ ตัวท่านนี้บิดามารดาก็เปนข้าของพระเจ้าเหี้ยนเต้มาแต่ก่อน ควรที่จะเจ็บร้อนด้วยเจ้าอิก ฤๅมากลับเข้าด้วยอ้ายสัตรูแผ่นดินนี้หาควรไม่

สุม้าอี้ได้ฟังขงเบ้งว่าก็อดสูแก่ใจมิรู้ที่จะตอบ จึงว่าถ้าฉนั้นท่านจะรบกับเราก็รบเถิด ขงเบ้งจึงว่าท่านจะรบกับเราตัวต่อตัวก็ตาม ฤๅจะรบด้วยฝีมือทหารเราก็มิกลัว สุม้าอี้จึงว่าถ้าฉนั้นเราจะรบกับท่านด้วยกลพยุห์ก่อน ขงเบ้งจึงว่าให้ท่านทำมาให้เราดูก่อนเถิด สุม้าอี้กลับเข้าไปข้างในทหารทั้งปวงจึงเอาธงแดงนั้นปักขึ้น ทหารก็ตั้งพยุห์เข้าพร้อมกันชื่อว่าอิคุยติ๋นพยุห แล้วจึงร้องถามขงเบ้งว่ากลพยุห์ของเรานี้ท่านรู้จักฤๅไม่ ขงเบ้งจึงบอกว่ารู้จักอยู่ชื่ออิคุยติ๋นกลพยุห์

สุมาอี้จึงว่าท่านรู้จักพยุห์ของเราแล้ว จงตั้งพยุห์ของท่านมาเราจะขอดูบ้าง ขงเบ้งก็กลับเข้ามาเอาพัดโบกทีเดียว