หน้า:สามก๊ก - ๒๔๔๙.pdf/1565

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
270
เล่ม ๔
สามก๊ก

สุม้าอี้จึงสยายผมเอาผ้าห่มนอนห่มไว้ ให้หญิงคนใช้ทั้งสองเข้ามาประคองอยู่ แล้วให้ออกไปรับหลีซินเข้ามา หลีซินคำนับแล้วว่า ข้าพเจ้าไม่รู้เลยว่า ท่านอาจาริย์ผู้ใหญ่ป่วยหนักถึงเพียงนี้ บัดนี้พระเจ้าโจฮองให้ข้าพเจ้าไปเปนเจ้าเมืองเซียงจิ๋ว ข้าพเจ้าจึงมาหาหวังจะลาท่านไป

สุม้าอี้ได้ฟังดังนั้นก็ทำเปนหูหนัก จึงแกล้งว่าซึ่งรับสั่งให้ท่านไปเปนเจ้าเมืองเป๋งจิ๋วนั้นก็ดีอยู่แล้ว ด้วยเมืองเป๋งจิ๋วใกล้กับเมืองหลวงมีราชการจะได้ให้หามาง่าย หลีซินจึงว่ามิใช่เมืองเป๋งจิ๋วหามิได้รับสั่งให้ไปเมืองเซียงจิ๋วดอก สุม้าอี้หัวเราะแล้วแกล้งถามว่า ท่านมาแต่เมืองเซียงจิ๋วฤๅ หลีซินจึงว่าท่านอาจาริย์ป่วยหนักจึงพูดฟั่นเฟือนไป คนใช้จึงบอกว่าท่านป่วยครั้งนี้ จนลมกำเริบขึ้นให้หูหนักผู้ใดเจรจาก็ไม่ได้ยินถนัด หลีซินจึงให้เอากระดาษกับภู่กันมาเขียนหนังสือลงมา พระเจ้าโจฮองให้ข้าพเจ้าไปเปนเจ้าเมืองเซียงจิ๋ว ข้าพเจ้าจึงมาคำนับจะลาไปแล้วส่งให้สุม้าอี้ดู

สุม้าอี้เห็นดังนั้นจึงทำเปนว่าอ้อ บัดนี้โปรดให้ท่านไปเมืองเซียงจิ๋วฤๅ ดีแล้วให้อุส่าห์ทำราชการรักษาตัวอย่าประมาท แล้วเอามือชี้เข้าที่ปากหญิงคนใช้ ก็เอาน้ำอาหารต้มมาให้สุม้าอี้กินเข้าไปแกล้งสอึกให้นํ้าข้าวนั้นไหลออกมา หวังจะให้หลีซินเห็นว่าป่วยหนัก แล้วว่าตัวเราทุกวันนี้ก็ชราทั้งโรคก็กำเริบป่วยหนัก จะตายวันนี้พรุ่งนี้ก็ไม่รู้เลย อันสุม้าสูสุม้าเจียวบุตร์เราทั้งสองเปนคนโฉดเขลา ท่านเอนดูสั่งสอนด้วยจงช่วยบอกโจซองว่า เราขอฝากบุตร์ทั้งสองด้วยเถิด แล้วเอนตัวนอนลงทำหอบขึ้นมา หลีซินก็ลากลับไปบอกโจซองตามคำสุมาอี้ป่วย แลว่ากล่าวนั้นทุกประการ

โจซองแจ้งดังนั้นก็ดีใจด้วยมิได้รู้กลสุม้าอี้ แล้วว่าถ้าอ้ายคนนี้ตายแล้วเราก็จะสิ้นความวิตก ถึงจะทำการสิ่งใดก็จะได้