หน้า:เครื่องมโหรีฯ - ดำรง - ๒๔๗๑.pdf/15

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๐

ปี่พาย์แต่เดิมวงหนึ่ง ๕ คน ก็กลายเป็นวงละ ๑๐ คน เรียกว่า "ปี่พาทย์เครื่องคู่" ปี่พาทย์อย่างเดิมที่ยังใช้กันอยู่ในพื้นเมือง เรียกว่า "ปี่พาทย์เครื่องห้า"

มาถึงรัชชกาลที่ ๔ มีผู้คิดระนาดทองขึ้นเป็นอุปกรณ์ระนาดเอก และคิดระนาดเหล็กขึ้นเป็นอุปกรณ์ระนาดทุ้ม เพิ่มขึ้นอิก ๒ อย่าง คนทำปี่พาทย์วงหนึ่งจึงเป็น ๑๒ คน เรียกว่า "ปี่พาทย์เครื่องใหญ่" เล่นกันสืบมาจนทุกวันนี้.

ตำนานปี่พาทย์เครื่องห้า ปี่พาทย์เครื่องคู่ และปี่พาทย์เครื่องใหญ่่ มีเรื่องราวดังแสดงมา

เรื่องตำนานกลองแขก

ในเครื่องปี่พาทย์ที่ไทยเราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เป็นเครื่องได้มาจากแขก ๒ อย่าง เรียกว่า "กลองมะลายู" ได้มาจากพวกมะลายู อย่าง ๑ เรียกว่า "กลองแขก" เข้าใจว่า ได้มาจากพวกชะว่า อย่าง ๑ เครื่องปี่พาทย์แขก ๒ อย่างนี้คล้ายกัน แต่ลักษณะประสมวง กลองมะลายูใช้กลอง ๔ ใบ ปี่เลา ๑ ฆ้องโหม่งใบ ๑ รวมคนวงละ ๖ คน กลองแขกใช้กลอง ๒ ใบ กับปี่เลา ๑ ฆ้องโหม่งใบ ๑ รวมคนวงละ ๔ คน แต่กลอง ๒ ชะนิดนั้นผิดกัน กลองมะลายูใช้ร้อยโยงด้วยสายหนัง รูปยาวกว่ากลองแขก ตีด้วยไม้หน้า ๑ ตีด้วยมือหน้า ๑ กลองแขกนั้นใช้ร้อยโยงด้วยหวายและตีด้วยมือทั้ง ๒ หน้า

พิเคราะห์ดูตามลักษณะที่ไทยเราใช้กลองมะลายูและกลองแขก เข้าใจว่า เครื่อง ๒ อย่างนี้เห็นจะได้มายังประเทศนี้ต่างคราวต่างเรื่องกัน ไทยเราจึง