หน้า:เปิดกรุผีไทย (เหม เวชกร).pdf/133

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
143
 

บัดนี้ เธอได้ตัดสินใจลาโลกไปพร้อมกับลูกในท้องโดยยาพิษ ผมสะดุ้งทั้งตัว ผุดลุกขึ้นนั่งร้องว่า เงินยวง พูดอะไรอย่างนั้น พูดเล่นทำไม เธอกลับบอกว่า ที่พูดนั้นเป็นความจริงทุกอย่าง ที่มาหานี้เป็นเพราะวิญญาณ เธอดับไม่ลง จึงวนเวียนติดตามผมมา ผมตกใจขึ้นอีกถึงแก่สะดุ้งตื่น น่าประหลาดฝันของผมนัก เพราะเมื่อตาผมมองไปที่ข้างเตียงนั้น ก็ยังเห็นเงาของเธอเพิ่งจะค่อยจางหายไป เห็นแก่ตาชัดเจน เพราะผมนอนเปิดไฟสว่างตลอดคืน

ผมลุกขึ้นนั่งในมุ้ง สงสัยตัวเองนัก ถ้าคิดว่าฝัน แต่ทำไมใน ระหว่างที่กำลังพูดคุยอยู่กับเงินยวง ผมยังได้ยินเสียงข้างล่างโรงแรม เสียงบ่อย และเสียงพวกทำอาหารยังพูดกันอยู่ เพราะข้างล่างเขามีเวรอยู่ตลอดคืน ต่อเมื่อตื่นขึ้นแล้ว เสียงข้างล่างก็ยังคงพูดคุยติดต่อกันอยู่ ผมเกิดขนลุกขึ้นมาทันที มันไม่ใช่ฝันเสียแล้ว รู้สึกใจวังเวงพิลึก นี่เงินยวงตายไปแน่แล้วตามที่พูดในจดหมายขอลาตาย ถ้าเธอไปแล้ว ก็น่าสลดใจสงสารเหลือเกิน ในชีวิตแก่ชราของผมนี่พบความสะเทือนใจเป็นครั้งที่สอง นับจากบุญแอบ ลูกบุญธรรม

ในคืนนั้น ผมเลยหลับไม่ลง แม้แต่จะเอาเหล้ามาดื่มให้ง่วงนอน มันก็กลับคิดอะไรต่ออะไรอีกยุ่งเหยิงจนกระทั่งฟ้าสาง เลยลุกขึ้นล้างหน้า ไม่นอนกันละ ไปปลุกลูกน้อง พอสว่างดีแล้ว ดื่มกาแฟไข่ลวกแล้วก็ออกรถ บึ่งกลับกรุงเทพฯ เลย ผมได้รีบไปหาญาติตำรวจคนนั้นอีก เล่าเหตุการณ์ที่ได้พบเห็นให้เขาฟัง เขาฟังแล้วก็ว่า ถ้าตัวพยานตายเสียแล้วจริง ก็หมดทางจะคิดล้างเหล่าร้ายได้ถนัด ผมเลยหมดปัญญาจะคิดล้างพวกเหล่าร้ายได้สมใจ

ความเสียใจของผมรุนแรงขึ้น กลุ้มใจที่ทำอะไรเหล่าร้ายไม่ได้ทั้ง ๆ รู้ ๆ เท่าที่คิดจะล้างพวกนี้นั้นก็หาใช่โกรธแค้นที่ทำกับเงินยวงทีเดียวนัก หากแต่เกรงคนต่อ ๆ ไปจะโดนเข้าอีกเป็นสิบเป็นร้อย คืนนั้น ผมไม่ไปไหนเลย ดูบัญชีเงินและนับเงินเรียบร้อยแล้วเข้าเก็บเตรียมจะไปส่งมอบให้ผู้จัดการห้าง และเบิกยาไปอีกตามเคย เพื่อเร่ร่อนต่อป จัดอะไรเสร็จแล้วก็เข้านอน ใจ