หน้า:เปิดกรุผีไทย (เหม เวชกร).pdf/134

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
144
 

ยังคิดถึงเงินยวง และคิดว่า เงินยวงเอ๋ย ถ้าเจ้าห่วงคนอื่นจะถูกล่อลวงอย่างตัวเจ้า ก็จงใช้อำนาจของเจ้าเท่าที่มีอยู่มาเข้าฝันให้แก่ตา เพื่อตาจะได้แก้แค้นให้ถ้าเจ้าตายไปจริงอย่างเข้าฝันมาแล้ว ขอเจ้าจงสำแดงเดชอีกเถิด

ผมไม่คิดเลยว่า ความนึกคิดในใจนั้นกลายเป็นคำอัญเชิญที่ศักดิ์สิทธิ์ไปได้ ผมหลับไปจนถึงเวลาดึกสงัดเงียบ ผมฝันว่า เหมือนมีใครมาร้องเรียกอยู่ข้างล่าง ผมเงี่ยหูฟัง ก็ได้ยินชัดว่าเรียกผม แต่เสียงเบา ๆ พอได้ยิน ผมได้ลุกขึ้นจากเตียง ค่อย ๆ ถอดกลอนหน้าต่างอย่างเบา ๆ แล้ว แง้มมองดูลงไปข้างล่าง บ้านผมอยู่ในซอยจึงมีบ้านห่าง ๆ กัน มีสวนบ้างมีบ้านบ้างสลับกันไป ผมผงะถอยหลังหน่อยหนึ่งที่มองไปข้างล่าง ก็พบร่างของเจ้าของเสียง และผู้นั้นก็คือ เงินยวง ในฝันว่า ผมอยากพบเธอก็อยากพบ แต่กลัวก็กลัว เพราะมั่นใจว่า แกตายแล้ว

ความกลัวคิดจะกลับปิดหน้าต่าง แต่ก็ไม่กล้าปิด มันประจันหน้ากันเสียแล้ว ผมแข็งใจทำโบกมือและกวักเรียกแกให้ขึ้นมาข้างบน เท่าที่กล้าทำก็เพราะรู้ว่า แกเคารพผมมาก แกเห็นผมกวักมือเรียกขึ้นบ้าน แกก็ทำท่าตกใจโบกมือไม่ยอมขึ้นมา แกทำท่าทางบอกใบ้ แต่ผมก็เข้าใจได้ดีว่า กิริยาบอกใบ้ของเธอนั้น คือ แกกลัวผีบ้านผีเรือน จึงไม่กล้าขึ้นมา ในที่สุด แกกลับกวักมือผมให้ลงไปหาแก ผมใจหายวาบ ผมกลัวจะต้องลงไปหาทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่า นั่นคือผี แม้แต่ผมจะมีอายุเข้าขั้นชราแล้วก็ตาม น่าจะไม่กลัวเรื่องผีเรื่องสาง แต่เอาแน่อะไรกับอายุครับ จะแก่จะเฒ่าอย่างไรมันก็ยังหวั่น ๆ อยู่ แต่จะเป็นด้วยเหตุใดก็ตาม เรื่องของฝัน ทำไมผมจึงกล้าลงไปพบกับเธอก็ไม่รู้

"แหม ตาอยากพบหนูอยู่ที่เดียว" ผมพูดออกไป จะว่า พูดจริงก็ได้ ไม่จริงใจก็ได้ เพราะเมื่อรู้ว่า เป็นผีจริง ๆ ใครจะอยากพบกันตัวต่อตัว ก็มุสาพูดเท่านั้น

"ก็เพราะเหตุคุณตาอยากพบหนูน่ะซี หนูจึงต้องมาหาคุณตา" เธอพูดเบา ๆ และหันหน้าตรงผม ดวงตาก็ตรงกัน หน้าแกขาวเหมือนกระดาษ