หน้า:เปิดกรุผีไทย (เหม เวชกร).pdf/135

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
145
 

ผมรู้สึกใจหวิว ถึงหน้าแกจะซีดจนไม่ใช่หน้าของคนมีชีวิต แต่มันก็เป็นหน้าของเงินยวงนั่นเอง ผมตั้งใจจะพูดอะไรมาก ๆ แต่ลงท้ายพูดอะไรติดอึกอัก เธอเหมือนจะรู้อะไรดี ๆ ก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นถึงเนื้อเรื่อง เธอว่า เธอรู้เรื่องแล้วว่า ผมต้องการพบเธอก็เพื่อจะเอาเรื่องกับเหล่าร้าย และต้องการตัวเธอเพื่อเป็นพยานยืนยันในการจับกุม แต่บัดนี้ เธอกลายเป็นผีไปแล้ว ก็ย่อมหมดตัวเจ้าทุกข์ หมดพยานหลักฐาน แต่เธอมีทางจะให้ผมทำได้สำเร็จ เพราะเวลานี้ ที่ซ่องนั้นกำลังมีหญิงอีกคนถูกหลอกลวงมาเช่นเดียวกับเธอ และเป็นหญิงที่ไม่มีพ่อแม่ จึงขาดผู้ที่จะช่วยแก้ไข หญิงนั้นกำลังถูกขู่เข็ญให้ขายตัวอยู่อย่างขมขื่น ถ้าทางผมจะคิดช่วย ก็มีอยู่สองทาง ทางที่หนึ่ง คือ หาคนเข้าไปในสำนักนั้นร่วมหลับนอนกับหญิงที่ว่านี้ แล้วก็จับเป็นพยานได้เลยที่ตั้งสํานักเถื่อน

ผมจึงแย้งเธอว่า การทำอย่างนั้นก็เอาโทษเขาได้เพียงตั้งสำนักค้าประเวณีเถื่อนเท่านั้น หาใช่การล่อลวงมนุษย์มาไม่ งั้นเธอก็ว่า มีอีกทางทางที่สอง คือ ไปคอยซุ่มจับที่ปากซ่องหรือประตูซ่องทีเดียว เพราะสำนักนี้มีทางเข้าถึงตัวได้ยากมาก มีร้านอาหารร้านหนึ่งเป็นประตูซ่องนี้ ปกติก็ดูเป็นร้านอาหารธรรมดาของจีน มีทั้งอาหารและสุรากาแฟพร้อม ไม่มีใครรู้ว่า นั่นคือม่านกั้นหน้าของซ่อง พวกที่มาเกี่ยวข้องกับสำนักนี้จะมากินอาหารกัน แล้วตัวนายหน้าจะมาติดต่อให้เข้าไปหาความสุขทางตรอกหลังร้านนั้นเอง คนไม่คุ้นเคยจะไม่มีทางเข้าเลย ร้านอาหารนั้นคือฉากบังหน้านั่นเอง

เงินยวงเธอรับจะใช้อำนาจเข้าดลใจบังคับให้หญิงคนที่ว่า พยายามหนีออกมา ถ้ามีใครติดตามออกมาจับตัวหรือฉุดคร่า ถ้าทางผมมีตำรวจนอกเครื่องแบบไปนั่งกินอาหารหรือกาแฟอยู่ ก็จะจับได้ทันที และหญิงเจ้าทุกข์ก็จะร้องให้ช่วย และเป็นพยานตัวสำคัญที่ถูกล่อลวงมา เธอบอกรูปร่างหน้าตาของหญิงนั้นไว้ถี่ถ้วน ทั้งบอกชื่อร้านและลักษณะต่าง ๆ ของสถานที่ ตลอดจนตำบลของที่นั้น ๆ พอหมดเรื่องนัดแนะอะไร ๆ มันเกิดกลับกลายไปหมด ร่างเงินยวงหายไปเฉย ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบสงัด