หน้า:เปิดกรุ (๒) - เหม เวชกร - ๒๕๓๘.pdf/52

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๕๙
 

"ไม่รู้ซิ ฉันไม่สนใจเลย ลองไปดูก็รู้นี่น่ะ ปากหลุมจะต้องมีดอกไม้ธูปเทียนผิดตาอยู่หรอก" ตาพูด

"งั้นฉันจะไปแอบดูท่าทีเสียก่อน นี่! พ่อแม้น ถ้าหากท่าทีมันยังไม่เหมาะ ก็ขอค้างอยู่ที่นี่สักคืนหนึ่งเถอะนะ" ตาหิงว่า "และขออาศัยข้าวสุกสักมื้อสุกมื้อด้วย" พูดแล้วหัวเราะ ตาก็หัวเราะ เพราะเรื่องการกินอยู่บ้านเราไม่ตกใจเลย ผมดีใจนัก ถ้ามีคนดีมาเรียกไปเสียได้ จะได้หมดความกลัวเสียที มิฉะนั้นละก็ สบายใจเพียงกลางวันเท่านั้น พอตกค่ำก็หวาดเกรงไปตลอดคืน

ตาหิงหายไปวัดสักครู่หนึ่งเดินกลับมาสั่นหัวอย่างท่าทางไม่สู้ดี

"แหม! พ่อแม้น พระที่วัดท่านตาขมึงเอาฉันเข้า พอเดินไปทางป่าช้า ท่านเรียกพระมาอีกหลายองค์เดินตามฉันและมีตะพดเสียด้วยซิ ท่าไม่เป็นการละแฮะ" ตาหิงพูด

"ถ้าพระท่านจะคิดว่า พ่อหิงจะไปปลุกไปเซ่นกระมัง" ตาว่า

"ถ้าอยู่แฮะ เอาละ ขอค้างสักคืนเถอะ พรุ่งนี้พ่อแม้นช่วยไปบอกพระด้วยกันว่า ฉันมาดี จะมาทำพิธีสะกดและเรียกเอาไป ไม่ได้มาทำให้วุ่นวายหรอก"

"เอา! เอายังงั้นก็เอา พรุ่งนี้จะไปหาท่านพระครู ท่านรำคาญใจ เลยควบคุมคนที่ไปก่อกวนผี" ตาว่า และรู้ว่า แกเห็นดีด้วยที่ตาหิงจะทำพิธีเรียกเอาไป

คืนนั้นเมื่อเสร็จอาหารแล้ว ผมไม่ยอมจะอยู่ฟังเขาคุยให้กลัวเปล่า ๆ รีบนอนเลย เขาคงคุยกันหลายทุ่มหน่อย ผมหลับไปนานโข ถ้าจะดึกแล้ว ผมตื่นขึ้นเห็นไฟดับหมด ก็เลยเงี่ยหูฟังเหตุการณ์ตามเคย เสียงต่าง ๆ นอกเรือนมันช่างเงียบสงัดจริง และในครู่นั้นเอง เสียงหมาทางวัดก็หอนขึ้นโหยหวน ผมใจเต้นรัว โกรธตัวเองว่า ดันตื่นขึ้นมาทำไมกันไม่รู้ ตื่นแล้วต้องผจญกับเสียงที่ไม่เป็นมงคล

ทางบ้านเรายังเงียบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมนอนใจระรัวเงี่ยหูฟังต่อไป