ไปโตถนัดใจ"
"ฉันว่า อ้ายช่อนมันหวงลูก เราพายเฉียดมัน มันเลยพุ่งเอา" ศิษย์วัดว่า
"แหม! ตีไม่ทันว่ะ ไม่งั้นป่านนี้ต้มน้ำบีบมะนาวแล้วน่ะซี" อีกคนผสมท้ายแล้วดื่มเหล้า ส้มมะขามเปียกแกล้ม เขาพูดคุยกันทางโน้น คนไข้หันหน้าไปมองทางวางเหล้าแล้วหันมาดูผม
"โอโว้ย พรุ่งนี้หาอ้ายช่อนสักตัวเถอะวะ" คนไข้พูดเสียงแจ๋ว
"เออน่ะ" ลุงอ่ำตอบแทนผม "อยากกินจะหาให้กินถมไป ขอให้กินเถอะ ไข้จะได้หายเร็ว" ลุงอ่ำพูดเอาใจคนไข้ตามระเบียบ คนไข้หัวเราะเสียงใสแล้วแลบลิ้นเลียปากพลางพูดว่า
"ได้อ้ายที่ท้องไข่ยิ่งดีนัก" แกชักจะพูดคุยได้ ถ้าพูดเรื่องกิน ดูกิริยาคล้าย ๆ จะค่อยทุเลา ทำให้คิดไปว่า อาจารย์เป้าคงทำเอาไข้เมาแน่ ๆ ถ้าพรุ่งนี้ท่านมาอีกคราว ก็คงมีหวังหาย ผมรู้สึกจะสบายใจขึ้นบ้าง ทางวงเหล้ามุมบ้านข้างโน้นคงคุยกันสนุกเรื่องหาปลาหากุ้งแกล้มเหล้า ลุงอ่ำมีทีท่าจะเชื่อการกระทำของพระอาจารย์เป้าอยู่มาก แกคอยมองดูอาการคนไข้อยู่ตลอดเวลา ผมเองก็ไม่ขาดการจับสังเกตกิริยา แต่คงเห็นคนไข้นอนเฉยนิ่งลืมตาเสมอ ไม่มีการงีบหลับบ้างเลย ธรรมดาคนไข้จะต้องอ่อนเพลียหลับบ่อย ๆ อาหารก็กินไม่ได้มาก อย่างที่พูดว่า จะกินอ้ายนั่น จะกินอ้ายนี่ ครั้นถึงเวลาอาหาร แกก็กินนิดเดียว ยิ่งขนมหวาน ๆ ที่ทำให้กิน เลือกชนิดไม่แสลง แกไม่แตะเลยเรื่องของหวาน
เราพูดเราคุยกันไป จะดึกเท่าไรไม่รู้ เสียงทางวงเหล้าเบาลงไป ชักเอกเขนกคุยกันบ้างแล้ว ลุงอ่ำถอยไปตั้งหลักที่ระเบียงหน้าห้อง บานเย็นจัดการปูเสื่อนอนเล่น ผมเห็นเหมาะ เลยถอยห่างคนไข้ไปนอนเล่าบ้างกับลุงอ่ำ ส่วนบานเย็นนั้นเข้าห้องนอนแล้ว มีเราสองคนกับลุงอ่ำนอนกำกับหน้าประตูให้ ทิดเจ๊กกับศิษย์วัดนอนกันแถวระเบียงหน้าครัว ทางคนไข้ เราหรี่ตะเกี่ยงไว้ มีน้ำมันไว้เพียงพอจะตามไฟไปได้ตลอดคืน ผมนอน