หน้า:ไปลังกา - ดำรง - ๒๔๖๙.pdf/30

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๘

อุบาฬีอีกพวกหนึ่ง ไปบวชชาวสิงหฬตั้งเปนนิกายต่างออกไป เรียงว่า มรัมวงศ์ ถ้าจะว่าที่แท้ ก็คือ นิกายไทยพวกหนึ่ง นิกายพม่าพวกหนึ่ง ยังเปน ๒ นิกายสืบเนื่องกันมาจนทุกวันนี้ พระนิกายไทยมีมาก นิกายพม่ามีน้อย การปฏิบัติรักษาธรรมวินัย พระสงฆ์ ๒ นิกายนี้ ฟังดูก็ไม่ปรากฎว่า เคร่งครัดผิดกันเปนข้อสำคัญอย่างไร พระสงฆ์ฝ่ายอุบาฬีวงศ์ห่มดอง ยังคาดราตคดอกอย่างพระไทย แต่ห่มคลุมแหวกอย่างพระพม่าเหมือนกันทั้ง ๒ พวก ทั้งสำเนียงสวดมนต์แลพูดภาษาบาฬี เปนก็เปนอย่างมัชฌิมประเทศเหมือนกัน

ฟังดูตามเสียงฝรั่ง เขาว่า พระสงฆ์ซึ่งอยู่ลึก ๆ เข้าไปในกลางเกาะ มักจะโง่เขาเกียจคร้านกว่าพระสงฆ์ซึ่งอยู่ตามเมืองท่า เพราะที่ลึก ๆ เข้าไปนั้นใกล้เมืองหลวง กษัตริย์ลังกาแต่ก่อนถวายที่กัลปนาไว้มาก ถึงหมดกษัตริย์ไป ท่านพระพวกนั้นก็ยังได้ค่าเช่าที่กัลปนาใช้สอยเปนผาสุก ไม่ขวนขวายที่จะทำการอันใด ทุกวัน