หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๏หนังสือจดหมายเหตุ๚


Bangkok Recorder.

Vol. 1. เล่ม ๑. บังกอก เดือนสิบเบด ปีมโรง จุลศักราช ๑๒๐๖. November, 1844.
ใบ ๕. No. 5.
คริศศักราช ๑๘๔๔.


ในหน้งสีอจดเหตุใบที่สามนั้น, เราได้ว่าลมอากาษนิ้วแลนิ้วทัวแผนดินหนักสิบชั่งเท่ากันกับปรอดสูงสามสิบเจดนิ้ว. ถ้าจะเอาท่อเลกเลกทําดว้ยแก้วยาวประมาณลี่สิบนิ้วให้ตันข้างหนึ่ง, แล้วเอาปรอดใส่ให้เตม, แล้วกลับปากท่อคว่ำลงในขาม, ก็จะเหนว่าปรอดนั้นทรุดลงมาคงอยู่แต่สามสิบเจดนิ้วเท่านั้น, ไม่ได้ทรุดลงมาอี่กเลย, เพราะเหตุลมอากาษนั้นดันปรอดที่ปากท่อนั้นไว้นิ้วแลนิ้วหนักสิบซั้ง, เท่ากันกับปรอดในท่อนั้น. เครื่องที่ทําดว้ยแก้วอย่างนี้, อังกฦษเรียกซื่อว่าบโรเมเตร, แปลว่า, เครื่องนี้เปนที่สังเกคว่าอากาษหนักเท่าไร. เครื่องอย่างนี้เขาทำสันถานรูปหลายอย่าง, แต่ทว่าได้ทําตามวิชาที่ว่ามาแล้วนั้นทุกอย่าง. สันถานรูปอย่างหนึ่งที่คนได้ใช้มากเขาทําอย่างนี้, เขาทําท่อดว้ยแก้วเลก ๆ ยาวประมาณสี่สิบห้าสิบนิ้ว, ให้ตันไว้ข้างหนึ่ง, ข่างปากท่อที่เปิดนั้นให้งอคู้ขึ้นลี่ห้านิ้ว, แล้วใส่ปรอดให้เตมก็จะทรุตลงถึงสามสิบเจคนิ้วเท่านั้น, แลปรอดจะลันออกข้างปากท่อที่งอขึ้นนั้นนอ่ยหนึ่ง, แล้วเอาด้ายผูกสิงที่เบา ๆ ที่จะลอยบนปรอดที่ไม่จมนั้นอย่อนลงไปในท่อให้ของนั้นลอยอยู่บนปรอด, แลปลายดายข้างหนึ่งให้มีลูกทวงให้เบากว่าสิงที่ลอยอยู่บนปรอดนั้นผูกไว้แล้ว, ให้พาลไว้กับเฃมเหมือนเฃมนาระกา, แลเครื่องนี้จะเปนที่สังเกตจะรู้ว่าอากาษหนักแลเบา. ถ้าว่าอากาษ์เบากว่าเคยเปน, ปรอดจะทรุดลงข้างกันท่อที่ตันนั้น, แลจะขึ้นข้างปากที่เปิดนั้น, ลูกทวงด้ายนั้นจะพาลให้เฃมลง. ถ้าอากาษหนักกว่าเคยเปน, ปรอดจะขื้นข้างท่อตัน, จะทรุดลงข้างท่อเปิด, เฃมก็จะกลับขึ้นตามหนักมากแลนอัย. แลเครื่องนี้เขาได้ใช้ในกําปันมาก, จะเปนที่สังเกดว่าลมอากาษหนักแลเบา. ถ้านายกําปันอยุ่ที่ใดใดเหนว่าเฃมนั้นลง, ก็รู้ว่าอากาษเบานักนายกําบั่นก็รู้เปนสําคัญว่า, จะบังเกิดพยุห้แลลมฝุ่นอันใหญ่ในที่นั้น.

แลที่เราได้ว่าแต่กอ่นว่า, ลมอากาษนิ้วแลนิ้วทัวไปหนักสิบชั่งนั้น, เรวได้ว่าเมื่ออากาษบริสุทธิปราชจากหมอกแลเมฆ, แต่ทว่าลางที่อากาษก็เบาลงกว่าสิบชั่งบ้าง, ถึงแปดชั่งเก้าชั่งบ้างในที่แห่งนั้น, เมื่อเปนรอ้นหลายวันอยู่ในที่ใดได, อากาษที่ติดกับแผนดินก็เปนรอ้น, เมื่อรอ้นแล้วก็เบาจะลอยขึ้น, แลอากาษที่แห่งธิอื่นจะไหลเข้าไปอยู่ที่นั้นให้เปนหนักเสมอกัน, แลอายน้ำอายดินเมือเปนรอ้นก็ลอยขึ้นในอากาษพร้อมกันกับอากาษที่รอ้นนั้นเปนหมอกเปนเมฆ. เมื่อเปนรอ้นนักหลายวันในที่อันใหญ่, ก็ให้อากาษเปนเบานักอยู่ที่นัน, แลลมอากาษอยู่ที่อื่นก็จะไหลพัดไปอยู่ในที่นั้น, จะบังเกิดลมมาทุกทิศเปนพยุห์ใหญ่, เหมือนที่เกิดในซะเลใหญ่บอ่ย ๆ. เมื่อนายกำปั่นเหนปรอดในบโรเมเตร, ก็วู้ว่าอากาษเบาไปนัก, จะบังเกิดลมพยุห์ใหญ่, ก็จะตอ้งจัดแจงกําปั่นให้ดี. ลีกประการหนึ่งมีลมพัดมาแต่ทิศข้างเหนือหกเดือน, แล้วก็กลัยพัดมาแต่ทิศข้างใต้หกเดือน, เปนเพราะเหตุลมพัดไปตามพระอาทิตย์. เมื่อพระอาทิตย์ไปข้างใต้, ก็ให้อากาษรอ้นเบาขึ้นอยู่ที่นั้น, อากาษอยู่ข้างหนือก็จะไหลไปอยู่ที่นั้น, เปนลมพัดไปแต่ข้างเหนือไปสู่ทิศใต้, ที่ทิ่พระอาทิตย์ตั้งอยู่นัน. เมื่อพระอาทิตย์ไปข้างเหนือก็ให้อากาษรอ้นเบาไปอยู่ที่นั้น, อากาษอยู่ข้างใต้จะไหลไปอยู่ที่นั้น, เปนลมพัดมาแต่ข้างใต้เปนสู่ทิศข้างเหนือ, ที่พระอาทิต์ตั้งอยู่เหมือนกัน. เพราะเหตุดั่งนั้นลมจึ่งพัดไปข้างเหนือหกเดือน, พัดไปข้างไต้หกเดือน, ตามพระอาทิตย์ไปดั่งนัน.

ที่นี้จะว่าดว้ยเมืองอังกฤษ. ที่คนไทเรียกว่าเมื่องอังกฤษแต่กอ่นนั้นเปนสามประเทษ, มีเจ้าเมืองสามอ่งค์ไม่ขึ้นกัน, ชื่อ