หน้า:Bueanglang Kanpatiwat 2475.djvu/103

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
93
 

หนึ่งเมื่อกำลังศึกษาวิชาประวัติศาสตร์อยู่ในห้องเรียนนั้น ท่านผู้บังคับการได้ไปตรวจดูการเรียนของนักเรียนในห้องต่าง ๆ เมื่อเข้าไปในห้องเรียนของท่านนั้นเป็นเวลาที่ท่านอาจารย์ได้ตั้งคำถามในวิชาประวัติศาสตร์ให้ท่านตอบ 2–3 ข้อ และท่านตอบไม่ได้เลยแม้แต่ข้อเดียว ท่านผู้บังคับการประสพเหตุการณ์เช่นนั้นก็พิโรธ จึงได้เรียกท่านออกมาติเตียนต่อหน้านักเรียนทั้งหลายด้วยคำแรง และโดยที่ท่านเป็นนักเรียนต่างประเทศ คำติเตียนซึ่งมีความพาดพิงไปถึงประเทศบ้านเกิดเมืองมารดรของท่านด้วย จึงทำให้ท่านมีความละอายและขมขื่นใจเป็นอย่างยิ่ง

หลังจากนั้นท่านนักเรียนต่างประเทศผู้เป็นคนไทยนั้นก็ได้ไปหาซื้อสมุดหัวข้อวิชาประวัติศาสตร์มาท่องด้วยความบากบั่นอย่างทรหด และเมื่อมีการเล็คเชอรวิชาประวัติศาสตร์ ได้ฟังด้วยความเอาใจใส่อย่างที่สุด ได้พากเพียนใส่ใจศึกษาวิชาประวัติศาสตร์โดยวิธีเช่นนั้นมาจวนถึงวันสอบไล่ชั้นสุดท้ายซึ่งจะออกเป็นนายทหาร บังเอิญในวันที่นักเรียนนายร้อยไทยจะไปสอบวิชาประวัติศาสตร์นั้นได้มีโอกาสพบกับท่านผู้บังคับการเข้า ท่านผู้บังคับการจึงปราศรัยว่า “วันนี้เจ้าจะไปสอบวิชาอะไร?” นักเรียนนายร้อยไทยตอบว่า “กระผมจะไปสอบวิชาประวัติศาสตร์” ท่านผู้บังคับการซึ่งยังจำเหตุการณ์ในห้องเรียนวันนั้นได้ดี ก็โคลงศีรษะช้า ๆ แสดงความสมเพทเวทนา นักเรียนนายร้อยไทยเห็นอาการของผู้บังคับการเช่นนั้นก็เดาใจท่านได้ จึงได้เรียนผู้บังคับการว่า “กระผมได้ใส่ใจฝึกฝนวิชานี้มาพอเป็นที่วางใจได้ ขอท่านผู้บังคับการอย่าได้วิตกในตัวกระผมเลย” ท่านผู้บังคับการมองจ้องหน้านักเรียนนาย