ประเทศญี่ปุ่น โดยไม่ทรงรู้เท่าถึงการณ์ ต่อภายหลังได้ทรงสอบสวนทราบตระหนักในข้อเท็จจริงแล้ว ได้ทรงถอนคืนคำตำหนินั้น แต่ก็ช้าไป เพราะหนังสือตอบโต้อย่างตรงไปตรงมาตามลักษณะนิสัยซื่อตรงของพระยาพหลฯ ได้สวนทางมาเสียแล้ว ถึงจะทรงทราบดีว่ามิใช่ความผิดของพระยาพหลฯ ก็จริง แต่เมื่อได้รับหนังสือตอบโต้อย่างที่ทรงรู้สึกว่าผู้เขียนขาดความยำเกรงพระทัยเช่นนั้น ก็ทรงขัดเคืองเป็นอันมาก และนับแต่นั้นมาก็ไม่ทรงติดต่อรับสั่งสนทนากับพระยาพหลฯ อีกเลยเป็นเวลาถึง 3 ปี
ความซื่อตรงต่อหน้าที่และความรู้จักตำแหน่งแห่งที่ของตนนั้น พระยาพหลฯ เป็นผู้ถือเคร่งครัดนัก เมื่ออยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านก็วางตนอย่างหนึ่ง ท่านเจ้าคุณได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า ครั้งหนึ่งท่านไปพักผ่อนหย่อนใจที่บางเขน ขณะกำลังนั่งตกปลาอยู่นั้น แลเห็นรถยต์ครั้งหนึ่งแล่นมาแต่ไกล มีรถจักรยานยนต์ตำรวจแล่นนำหน้ามา ท่านจำได้ว่าเป็นรถนายกรัฐมนตรี หลวงพิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ท่านก็วางคันเบ็ดลงและลุกขึ้นยึน เมื่อรถของนายพลตรี หลวงพิบูลฯ ผ่านมาถึง ท่านก็กระทำคำนับในฐานที่ท่านายพลตรีเป็นผู้บังคับบัญชาของท่าน
“ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นตำแหน่งผู้นำของประเทศนั้นเป็นตำแหน่งสูงสุด” เจ้าคุณพหลฯ กล่าวต่อไป “เมื่อผู้ใดได้ดำรงตำแหน่งอันสูงสุดอันประกอบด้วยความรับผิดชอบใหญ่หลวงเช่นนี้แล้ว ผมก็มีหน้าที่จะต้องแสดงความเคารพต่อท่านผู้นั้น