เล่า แต่ความจริงอาจไม่ชั่วแต่ถูกจำคุกไปจนตลอดชีวิต หากอาจถูกลงโทษถึงประหารชีวิตเสียทีเดียวก็เป็นได้ เมื่อระลึกถึงข้อนี้แล้ว พระยาพหลฯ ก็ตั้งคำถามต่อไปว่า เพื่อที่จะใช้ชีวิตให้สมค่าที่สุดนั้น คนเราควรจะใช้ชีวิตอย่างไรเล่า? ถ้าเราไม่ตายในวันนี้ เราจะไม่ตายในวันหน้าหรือ ถ้าเราต้องตายในวันนี้เพื่อแก่ชาติบ้านเมือง จะไม่ดีกว่าการผัดไว้ตายในพรุ่งนี้โดยปราศจากความความมุ่งหมายอะไรเลยหรือ? แล้วก็ครอบครัวบุตรภรรยาของเราที่จะอยู่ต่อไปในภายหลังโดยปราศจากความอุปถัมภ์ของเราเล่า? คำตอบก็ปรากฏขึ้นว่า ถ้าเราจะต้องตายในวันพรุ่งนี้ บุตรภรรยาของเราก็จะถูกปล่อยไว้แต่ลำพังเช่นเดียวกับเราที่จะต้องตายในวันนี้เหมือนกัน นอกจากนั้น บุตรภรรยาของคนอีกตั้งหมื่นตั้งแสนที่ได้ถูกปล่อยให้ต่อสู้กับเคราะห์กรรมไปแต่ลำพังในโลกนี้ คนเหล่านั้นเขาอยู่มาอย่างไร และอาจประสพความสุขความเจริญในชีวิตได้อย่างไรเล่า ถ้าคนเหล่านั้นเขาอยู่มาได้อย่างไร และอาจประสพความสุขความเจริญมาได้อย่างไร บุตรภรรยาของเราก็ย่อมจะอยู่ไปได้เช่นคนทั้งหลายเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับความอุปถัมภ์บำรุงเลี้ยงจากเราก็ตาม
ในขณะที่เกิดความประหวั่นพรั่นใจและความคิดวอกแวกนอกลู่นอกทางนั้น เมื่อได้ตั้งคำถามและตอบข้อถามได้ปลอดโปร่งโล่งใจตามนัยที่กล่าวข้างต้นแล้ว ความคิดก็เข้าสู่แนวเดิมแน่วแน่ไม่แปรผันต่อไปอีก พระยาพหลฯ ได้ปฏิบัติกิจวัตรบำเพ็ญสมาธิ