หน้า:Bueanglang Kanpatiwat 2475.djvu/122

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
112
 

พรายเรื่องนี้ให้ผู้ใดล่วงรู้เป็นอันขาด เว้นเสียแต่ผู้ที่ร่วมเป็นร่วมตายด้วยกันเท่านั้น ถึงกระนั้นก็ดี เจ้าคุณพหลฯ เองเห็นว่า ท่านควรจะถือภรรยาเป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายได้คนหนึ่ง

ดังนั้น เพลาเย็นวันหนึ่ง ท่านหัวหน้าคณะราษฎรจึงได้เรียกภรรยาไปสนทนากับท่านสองต่อสอง และเผยความคิดเรื่องนี้ให้ฟัง ได้ชี้แจงแก่ภรรยาของท่านอย่างตรงไปตรงมาว่า การที่คิดจะเปลี่ยนการปกครองแผ่นดินครั้งนี้ ก็มิได้แน่ใจว่าจะทำไปสำเร็จดอก มองเห็นข้างศรีษะจะหลุดจากบ่านั้นมากกว่า แต่ที่เห็นแน่ตระหนักในใจก็คือ ถ้าไม่เร่งรัดจัดเปลี่ยนระบอบการปกครองเสียแต่ในเวลานี้แล้ว ต่อไปภายหน้าบ้านเมืองก็คงจะประสพความหายนะถึงล่มจมลงไปเป็นแน่ เพราะฉะนั้น จึงรู้สึกเป็นความจำเป็นที่จะต้องนำชีวิตเข้าเสี่ยงภัย ที่ว่ารู้สึกเป็นความจำเป็นนั้น อาศัยเหตุว่าบิดาของท่านเคยเป็นนายทหารผู้ใหญ่ก็ข้อหนึ่ง และตัวท่านเองก็เป็นนายทหารผู้ใหญ่ซึ่งได้รับความอุดหนุนของบ้านเมืองให้ออกไปศึกษาวิชาการในต่างประเทศ ก็จำต้องคิดถึงบุญคุณของบ้านเมืองอีกข้อหนึ่ง เมื่อเห็นภัยจะมีมาสู่ประเทศของตน จะนิ่งนอนใจอยู่มิได้ จำต้องรู้สึกถึงความรับผิดชอบพลีชีวิตออกเสี่ยงภัยเพื่อกู้บ้านเมืองไว้ตามสติปัญญาที่จะทำได้ ดังนั้น จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็จำต้องทำ

ภรรยาของท่านหัวหน้าคณะราษฎรได้ฟังสามีชี้แจ้งเหตุผลประกอบความตกลงปลงใจดังนั้นแล้ว ก็มีความเห็นชอบด้วยทุกประการ นอกจากจะมิได้ทำการขัดขวางแต่อย่างใดแล้ว ยังได้ให้ความสนับสนุนในทางกำลังใจอย่างเต็มที่