ก่อนจะเข้าสู่กรมทหารม้าที่ 1 คณะปฏิวัติต้องเผชิญหน้ากับกองรักษาการณ์เป็นด่านแรก นายทหารเสือทั้งสามจึงเรียกหาตัวผู้บังคับการและอุบายแต่งความขึ้นว่า บัดนี้เกิดการจลาจลขึ้นในกลางพระนครแล้ว ตัวผู้บังคับการยังมิรู้อีกหรือ ฝ่ายผู้บังคับการกองรักษาการณ์ซึ่งเป็นนายหารชั้นผู้น้อยเมื่อเผชิญหน้ากับนายทหารผู้ใหญ่ทั้งสาม อีกทั้งเคยอยู่ในฐานะเป็นอาจารย์ของตนมาแต่ก่อนด้วย ก็เชื่อคำลวงนั้นอย่างสนิท ผู้อำนวยการจึงออกคำสั่งให้นายร้อยผู้บังคับการบอกทหารรักษาการณ์ให้เป่าแตรสัญญาณเหตุสำคัญเรียกประชุมทหารทั้งกรมขึ้นในทันที พอทหารเป่าแตรสัญญาณบอกเหตุขึ้นแล้ว ทหารม้าทั้งกรมก็ตื่นขึ้นด้วยความตื่นเต้นจังงัง ในชั่วขณะแห่งความชุลมุนจังงังนั้นเอง พระยาพหลฯ ก็ตรงเข้าไปในกรม รีบรุดไปยังคลังอาวุธ ใช้กรรไกรซึ่งเตรียมไปพร้อมแล้วเข้าตัดโซ่กุญแจประตูคลังอันเต็มไปด้วยหีบกระสุนและปืนกลเบา ฝ่ายพระประศาสน์ฯ ก็ตรงไปยังโรงเก็บรถรบ รถยนต์หุ้มเกราะ และรถยนต์บรรทุก และบัญชาให้ทหารเข้านั่งประจำในที่จับและนำรถออกมาจากโรง ส่วนตัวพระประศาสน์ฯ นั้นนั่งมาในรถเกราะคันสุดท้าย ครั้นแล้วฝ่ายบัญชาการของคณะปฏิวัติก็สั่งให้ทหารขนหีบกระสุนและปืนกลเบาขึ้นรถบรรทุก แล้วก็สั่งทหารทั้งปวงออกเดิน การเข้ายึดกำลังทหารทั้งกรมและคลังอาวุธนั้น คณะปฏิวัติทหารบกได้กระทำเสร็จสิ้นภายในเวลาราวครึ่งชั่วโมง ครั้นแล้วคณะปฏิวัติก็นำขบวนทหารกรมทหารม้าที่ 1 ตรงมายัง
หน้า:Bueanglang Kanpatiwat 2475.djvu/129
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
119