คณะระบอบเก่าขัดเคือง “จนถึงจะทำให้เกิดการจลาจลรบราฆ่าฟันกันขึ้น และจะทำให้บ้านเมืองถึงแก่ฉิบหายล่มจมได้”
ผู้พูดทางวิทยุกระจายเสียงหาได้โต้ตอบประเด็นข้อโต้เถียงข้อใหญ่ใจความทั้งสองข้อนี้ไม่ ผู้พูดได้อวดอ้างว่า เขาตักเตือนเราด้วยเหตุผล แต่ตัวเขาเองสิกลับไม่กล้าเผชิญต่อข้อเท็จจริงและเหตุผลตามที่เราได้เสนอให้เขาพิจารณา
การพูดของเขาเมื่อคืนวันอังคารแทบไม่มีเนื้อหาอะไรที่เราจะต้องนำมาคำนึง เพราะเขาเลี่ยงไปพูดในเรื่องที่ไร้สาระเสียทั้งสิ้น ถึงกระนั้นก็ดี เราก็ใครจะชี้ให้ประชาชนได้เห็นว่า คารมซึ่งแสดงมาตรฐาน ปัญญา และจิตใจของผู้เรียบเรียงบทสนทนาขนาดนั้น สมควรละหรือที่จะปล่อยให้เป็นผู้ใช้เครื่องมือวิทยุกระจายเสียงพูดโฆษณาความคิดของเขาให้ประชาชนฟังอยู่ทุกคืน
เขาว่า เขาตักเตือนเราด้วยหวังดี ด้วยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนร่วม เพราะฉะนั้น เราจะต้องเชื่อฟังเขาและยอมรับว่าเขาเป็นฝ่ายถูกต้อง
อาศัยหลักเกณฑ์ข้อนี้ของเขา การก็จะเป็นว่า ใคร ๆ ก็ตาม ถ้าได้กล่าวตักเตือนใครโดยมีข้ออ้างว่า “ตักเตือนด้วยหวังดี และด้วยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม” แล้ว ผู้ที่ได้รับตักเตือนก็จะต้องเชื่อฟังทีเดียว ถ้าผู้พูดยึดถือหลักเกณฑ์ข้อนี้อย่างเคร่งครัดแล้ว เมื่อหนังสือพิมพ์ตักเตือนกรมโฆษณาการให้เปลี่ยนตัวผู้เรียบเรียงบทสนทนาเสียใหม่ ซึ่งเป็นคำ “ตักเตือนด้วยหวังดี และด้วยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม” แล้ว กรมโฆษณาการก็ควรจะจัดการทันทีเช่นเดียวกันมิใช่หรือ?