และได้ตกลงปลงใจร่วมมือด้วยโดยมิได้อิดเอื้อนเลย อนึ่ง เมื่อพระยาพหลฯ ปรารภกับพระยาทรงฯ ว่าจะไปพูดจาชักชวนให้พระยาศรีฯ มาร่วมมือด้วยนั้น พระยาทรงฯ ส่ายหน้าบอกว่า เพื่อนของเราคนนี้อ่านใจของเขายากจริง เพราะเป็นคนไม่ค่อยจะพูด แต่ถ้าพระยาพหลฯ จะลองไปพูดจาชักชวนดูแล้ว พระยาทรงฯ ก็ไม่ขัดข้อง ส่วนพระยาทรงฯ เองนั้นขอตัวที่จะไปพูดจาเกลี้ยกล่อมพระยาศรีฯ เพราะคาดว่ามีความสำเร็จน้อยเต็มที
นับแต่นั้นมา ท่านนายพันเอกทั้งสองก็ปรึกษาร่วมคิดกันที่จะดำเนินเปลี่ยนการปกครองแผ่น⟨ดิน⟩อย่างจริงจัง และสอดส่องแสวงหาสมัครพรรคพวกร่วมใจเพิ่มเติมอยู่มิเว้นวาย
ต่อมาพระยาพหลฯ ได้พบสนทนากับพระยาศรีสิทธิสงครามอยู่เนือง ๆ เพื่อพูดจาทาบทามฟังความคิดเห็นของพระยาศรีฯ ว่าจะเห็นชอบด้วยการเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดินหรือไม่ แต่พระยาพหลฯ ก็ได้ระมัดระวังที่จะไม่พูดจาให้พระยาศรีฯ ได้รู้ความเป็นไปลึกซึ้ง เพราะมิสู้วางใจว่าพระยาศรีฯ จะเล่นด้วยพระยาพหลฯ นัก ได้ปรารภถึงการเรื่องนี้ครั้งใด พระยาศรีฯ ก็ได้แต่นิ่งฟัง ไม่ทักท้วงและไม่สนับสนุนประการใด พระยาพหลฯ ก็เพียรพบสนทนากับพระยาศรีฯ หลายครั้ง พระยาศรีฯ ก็ไม่เปิดเผยความคิดอยู่นั่นเอง พระยาพหลฯ ก็จนปัญญาและไม่กล้าจะเปิดเผยรายละเอียดของคณะให้พระยาศรีฯ ทราบ เมื่อเห็นแน่ว่าพระยาศรีฯ คงไม่ร่วมความคิดด้วยแล้ว พระยาพหลฯ ก็จำต้องตัดใจปล่อยพระยาศรีฯ ผู้เพื่อนสนิทไว้แต่ลำพัง