หน้า:Constitutional imperialism in Japan (IA constitutionalim00clemrich).pdf/75

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
เล่ม 3]
65
ภาคผนวก

มาตรา 8 ให้สภาขุนนางลงมติในเรื่องหลักเกณฑ์ว่าด้วยเอกสิทธิ์ของชนชั้นบรรดาศักดิ์ เมื่อจักรพรรดิทรงหารือด้วย

มาตรา 9 สภาขุนนางย่อมวินิจฉัยในเรื่องคุณสมบัติของสมาชิกตน และเรื่องข้อพิพาทเกี่ยวกับการเลือกตั้งของตน หลักเกณฑ์การวินิจฉัยเหล่านี้ ให้เป็นไปตามที่สภาขุนนางลงมติ และให้ทูลเสนอต่อจักรพรรดิเพื่อมีพระราชานุมัติ

มาตรา 10 เมื่อสมาชิกผู้หนึ่งถูกพิพากษาให้กักขังหรือให้ลงโทษใด ๆ ที่สูงกว่านั้น หรือถูกประกาศให้ล้มละลาย ให้ขับสมาชิกผู้นั้นด้วยพระบัญชา

ในเรื่องการขับสมาชิกอันเป็นการลงโทษทางวินัยในสภาขุนนางนั้น ให้ประธานทูลรายงานข้อเท็จจริงต่อจักรพรรดิเพื่อมีพระราชวินิจฉัย

สมาชิกผู้ใดที่ถูกขับออกไปแล้ว มิให้เป็นสมาชิกได้อีก เว้นแต่จักรพรรดิจะมีพระราชานุญาตให้เป็นเช่นนั้นได้

มาตรา 11 ประธานและรองประธานนั้น ให้จักรพรรดิทรงเสนอชื่อจากบรรดาสมาชิกทั้งหลาย โดยมีวาระเจ็ดปี

ถ้าสมาชิกผู้มาจากการเลือกตั้งได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานหรือรองประธาน ให้ผู้นั้นทำหน้าที่ในฐานะเช่นนั้นโดยมีวาระตามสมาชิกภาพของตน

มาตรา 12 เรื่องทุกประการ นอกเหนือจากที่ได้บัญญัติไว้แล้วในพระราชกำหนดนี้ ให้ดำเนินการไปตามบทบัญญัติของกฎหมายสภา

มาตรา 13 ในอนาคตเมื่อจะแก้ไขเพิ่มเติมหรือเสริมแทรกสิ่งใด ๆ ในบทบัญญัติแห่งพระราชกำหนดนี้ ให้เสนอเรื่องนั้นมายังสภาขุนนางเพื่อออกเสียงลงคะแนน

3. กฎหมายสภา[1]

ตามคำแนะนำจากองคมนตรีสภาของเรา เราขออนุมัติกฎหมายสภาฉบับนี้ และมีบัญชาให้นำกฎหมายนี้ออกประกาศใช้ และในขณะเดียวกัน ขอสั่งว่า ตั้งแต่วันจัดตั้งสภาขุนนางและสภาผู้แทนราษฎร บรรดากิจการอันเกี่ยวโยงกับสภาหนึ่งสภาใดในสภาเหล่านี้ ให้ดำเนินไปตามกฎหมายฉบับนี้

  • [พระนามาภิไธย]
  • [พระราชลัญจกร]

วันที่ 11 เดือนยี่ ปีเมจิที่ 22 [11 กุมภาพันธ์ 1889]

  1. ชื่อญี่ปุ่น คือ "議院法" (กิอิงโฮ)" (เชิงอรรถของวิกิซอร์ซ)
(385)