รูปมูลค่าทั่วไป ซึ่งแสดงผลผลิตแรงงานเป็นเพียงวุ้นของแรงงานมนุษย์ที่ไม่แตกต่างกัน ด้วยขอบข่ายของตน ชี้ว่าตนเป็นการแสดงออกทางสังคมของโลกแห่งสินค้า และจึงเปิดเผยว่าข้างในโลกใบนั้น ลักษณะความเป็นมนุษย์ทั่วไปของแรงงานประกอบสร้างลักษณะทางสังคมที่จำเพาะของมัน
ระดับความพัฒนาของรูปมูลค่าสัมพัทธ์สอดคล้องกับระดับความพัฒนาของรูปสมมูล แต่น่าสังเกตว่าพัฒนาการของรูปสมมูลเป็นเพียงการแสดงออกและผลลัพธ์ของพัฒนาการของรูปมูลค่าสัมพัทธ์
รูปมูลค่าสัมพัทธ์แบบเรียบง่ายหรือแบบเอกเทศของสินค้าทำให้สินค้าอีกอย่างกลายเป็นสิ่งสมมูลเป็นเอกเทศ รูปมูลค่าสัมพัทธ์แบบขยาย หรือการแสดงออกมูลค่าของสินค้าเป็นสินค้าอื่นทั้งหมด ประทับรูปสมมูลจำเพาะที่หลากหลายลงบนสินค้าเหล่านั้น ท้ายที่สุด สินค้าชนิดจำเพาะชนิดหนึ่งอยู่ในรูปสมมูลทั่วไป เพราะสินค้าอื่นทั้งหมดทำให้สินค้าชนิดนั้นกลายเป็นวัสดุสำหรับรูปมูลค่าที่เป็นเอกรูปและทั่วไป
ทว่าในระดับเดียวกันที่รูปมูลค่าเองพัฒนา ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองขั้วของรูปมูลค่าก็พัฒนาขึ้นไป คือรูปมูลค่าสัมพัทธ์กับรูปสมมูล
ในรูปแรก —— ผ้าลินิน 20 หลา เสื้อคลุม 1 ตัว —— ก็มีความขัดแย้งอยู่แล้วแต่ยังไม่ตายตัว สินค้าทั้งสองขั้ว คือผ้าลินินกับเสื้อคลุม สามารถอยู่ในรูปมูลค่าสัมพัทธ์และรูปสมมูลอย่างเท่า ๆ กัน ขึ้นอยู่กับว่าอ่านสมการด้านเดิมหรือกลับด้าน แต่ในที่นี้ยังยากที่จะกุมความขัดแย้งเชิงขั้วได้
ในรูป II สินค้าขยายรูปมูลค่าสัมพัทธ์ให้ครบถ้วนได้ทีละชนิดเท่านั้นเสมอ หรือมันเองเท่านั้นที่อยู่ในรูปมูลค่าสัมพัทธ์แบบขยาย เพราะและตราบที่สินค้าอื่นทั้งหมดอยู่ในรูปสมมูลต่อสินค้าดังกล่าว ในที่นี้ เราไม่สามารถสับเปลี่ยนด้านสมการมูลค่าได้อีกต่อไป —— เช่นผ้าลินิน 20 หลา เสื้อคลุม 1 ตัว หรือ ชา 10 ปอนด์ หรือ ข้าวสาลี 1 ควาร์เทอร์ ฯลฯ —— โดยไม่เปลี่ยนลักษณะโดยรวม แล้วแปรสภาพจากรูปมูลค่าแบบรวมกลายเป็นรูปมูลค่าแบบทั่วไป
รูปสุดท้าย รูป III ท้ายที่สุดได้มอบรูปมูลค่าสัมพัทธ์ทั่วไปทางสังคมให้โลกแห่งสินค้า เพราะและตราบที่สินค้าทั้งหมดที่ขึ้นกับมัน โดยมีข้อยกเว้นหนึ่งข้อ