มิได้ ก็จะถวายความจริงเป็นมั่นคง พระเจ้าติวอ๋องยังมิได้ตรัสประการใด นางอึ้งกุยหุยได้ยินนางขันกีทูลดังนั้นก็ตกใจ จึงกลับมาบอกความแก่นางเกียงฮองเฮาตามคำนางขันกีทุกประการ
นางเกียงฮองเฮา ขณะนั้น พระเจ้าติวอ๋องให้ควักตาเสียแล้ว โลหิตไหลลงอาบเสื้อ ความเจ็บเป็นสาหัส นั่งหลับตาอยู่ พอได้ยินเสียงนางอึ้งกุยหุยบอกความดังนั้น จึงว่า เราจะได้คบคิดกันกับผู้ใดให้มาทำร้ายแก่พระมหากษัตริย์นั้นหามิได้ นางขันกีแกล้งทูลยุยงให้ควักตาเสียแล้ว บัดนี้ จะซ้ำให้โอบเสาทองแดงอีกเล่า หวังจะให้เรารับว่า ใช้เกียงฮวนมาทำร้ายแก่พระมหากษัตริย์ ถึงมาตรว่าจะตาย ก็จะสู้เสียชีวิต นางอึ้งกุยหุยได้ยินดังนั้นก็คิดสงสารนัก ร้องไห้พลางคำนับลากลับไปเฝ้าทูลพระเจ้าติวอ๋องว่า ข้าพเจ้าไปไต่ถามไล่เลียงเกียงฮองเฮาเป็นหลายครั้ง จนถึงควักตาเสีย ได้ความเจ็บป่วยเป็นสาหัส แล้วจะให้ทำโทษด้วยเผาหลกตามรับสั่ง นางเกียงฮองเฮาจะสู้ถวายชีวิต จะได้คิดใช้ให้เกียงฮวนมาทำร้ายพระองค์หามิได้ พระเจ้าติวอ๋องได้ฟังจึงตรัสถามนางขันกีว่า เราให้ทำโทษเกียงฮองเฮาสาหัสถึงเพียงนี้แล้ว เกียงฮองเฮาก็หาให้