ให้ทหารจับตัวเตียวคีไปนาบด้วยเสาทองแดงจนเนื้อไหม้เกรียมเหม็นเขียวตระหลบไปทั้งวัง เตียวตีก็ขาดใจตาย พระเจ้าติวอ๋องก็เสด็จเข้าไปตำหนักตึกนางขันกี จึงตรัสบอกความซึ่งทำโทษเสี่ยงหยงกับเตียวคีให้นางขันกีฟัง แล้วปรึกษานางขันกีว่า นางเกียงฮองเฮาผู้ตายนั้นเป็นบุตรเกียงฮวนฌ้อ เจ้าเมืองตังลู้ เกียงฮวนฌ้อมีทแกล้วทหารมากกว่าร้อยหมื่น ถ้ารู้ว่า ทำโทษนางเกียงฮองเฮาถึงสิ้นชีวิต เห็นเกียงฮวนฌ้อจะคิดการกบฏ เราวิตกนัก เจ้าจะคิดประการใด นางขันกีจึงทูลว่า ข้าพเจ้าเป็นสตรี คิดไปมิถึง ขอให้หาฮุนต๋งเข้ามาเฝ้า ปรึกษากับฮุยต๋งจึงจะควร พระเจ้าติวอ๋องได้ฟังนางขันกีว่าก็เห็นชอบด้วย จึงตรัสชมว่า เจ้ามีสติปัญญา บรรดาหญิงทั้งแผ่นดินไม่มีเสมอสอง สมควรจะเป็นมเหสีเอก พระเจ้าติวอ๋องจึงให้หาฮุยต๋งเข้ามาเฝ้าที่ข้างใน จึงตรัสปรึกษาฮุยต๋งว่า บรรดาขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยก็ต้องโทษตายเสียเป็นหลายคน ขุนนางซึ่งมิได้ซื่อตรงต่อเราจะลอบลักให้หนังสือลับไปถึงเกียงฮวนฌ้อว่า ทำโทษเกียงฮองเฮาตาย เห็นเกียงฮวนฌ้อจะคิดการกบฏยกมากระทำแก่เมืองเรา บุนไทสือเล่าไปปราบหัวเมืองฝ่ายเหนือยังไม่กลับมา หาผู้ใดจะสู้รบต้านทานกองทัพเมืองตังลู้ไม่ เราวิตกนัก ท่านจะ
หน้า:Hongsin 2506 (1).djvu/143
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
เล่ม ๑
131