แล้วเข้าไปหานางขันกีในวังอยู่ด้วยกันหลายวัน เวลาค่ำวันหนึ่ง พากันไปกินนางสาวใช้ ทิ้งกระดูกไว้ริมสระสวนดอกไม้ อยู่มาวันหนึ่ง ปีแป๋ปิศาจลานางขันกีออกจากวังจะไปที่อาศัย มาถึงกลางทาง เห็นหญิงชายชาวเมืองชักชวนกันจะไปให้หมอดู ปีแป๋ปิศาจได้ยินก็ตกใจ กลัวหมอจะรู้ว่า เป็นปิศาจมาอาศัยอยู่ในกุฏิ จะมาทำอันตราย จำกูจะไปทดลองลวงให้ดู จะแน่จริงหรือไม่แน่ ปีแป๋ปิศาจจึงจำแลงเป็นหญิงสาวน้อยเดินปนไปกับหญิงชายชาวเมือง ครั้นมาถึงที่เกียงจูแหย ปีแป๋ปิศาจจึงว่ากับคนทั้งปวงว่า ข้าพเจ้ามีธุระร้อนจะด่วนไป จะขอให้ท่านดูก่อน เกียงจูแหยเห็นหญิงสาวนั้นตาแดงดุจแสงไฟ ก็รู้ว่า เป็นปิศาจจะแกล้งมาลองความรู้ตัว เกียงจูแหยจึงคิดว่า จำกูจะฆ่าปิศาจเสียให้ตาย พอปีแป๋ยื่นมือมาให้ดู เกียงจูแหยเห็นก็ฉวยเอาข้อมือไว้ ปีแป๋ก็แสร้งทำมารยาร้องว่า ตัวเราเป็นหญิง ท่านดูแล้วเหตุใดยังหาปล่อยมือเราไม่ คนทั้งปวงเห็นดังนั้นก็ว่า จีนแสเป็นคนสูงอายุ เราท่านนับถือ มาทำดังนี้ไม่ชอบ เกียงจูแหยจึงว่า หญิงคนนี้เป็นปิศาจ มิใช่มนุษย์ ว่าแล้วก็เอาหินฝนหมึกต่อยศีรษะปีแป๋ปิศาจล้มลงกับที่ พอปิกัน ขุนนางผู้ใหญ่ จะเข้าไปในวัง มาถึงได้ยินหญิงชายร้องว่า เกียงจูแหย
หน้า:Hongsin 2506 (1).djvu/221
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
เล่ม ๑
209