เป็นขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยอย่างไร ก็อยู่ในบังคับเราสิ้น จะเอาตัวมาให้ได้ นางฮิบี๋จึงแสร้งทำเป็นนับนิ้วมือดู แล้วทูลพระเจ้าติวอ๋องว่า หมอที่เมืองนี้ชื่อ ปิกัน ขุนนางผู้ใหญ่ มีตับมังกรอยู่ในท้อง พระองค์จะให้หาเข้ามาที่ไหนได้ พระเจ้าติวอ๋องจึงตรัสว่า เราจะหาตัวมาเอาตับมังกรในท้องต้มให้นางขันกีกินจงได้ แล้วพระองค์ก็เขียนหนังสือให้ขันทีไปหาตัวปิกันเข้ามาเป็นการเร็ว
ฝ่ายปิกันนั่งอยู่ในตึก คิดวิตกถึงการบ้านเมืองอยู่ พอขันทีเอาหนังสือไปแจ้งว่า รับสั่งให้หาในทันใดนั้น แต่ขันทีถือหนังสือวิ่งซ้ำกันออกไปถึงหกคนบอกว่า รับสั่งเร่งนัก ปิกันเห็นผิดประหลาด จึงถามขันทีว่า ราชการร้อนรนอย่างไรหรือ จึงซ้ำกันมาถึงห้าคนหกคนดังนี้ จงบอกความแก่เราให้รู้ก่อน จึงจะไป ขันทีจึงบอกว่า ข้าพเจ้าได้ยินว่า นางขันกีป่วยรากโลหิต จะเอาตับมังกรที่ในท้องของท่านต้มให้กิน ปิกันรู้ดังนั้นก็ตกใจนัก ครั้นจะว่าไม่ไป ก็เกรงอาญาพระเจ้าติวอ๋อง จึงว่ากับตำรวจให้นั่งอยู่ท่าสักหน่อยหนึ่ง แล้วก็ลุกเข้าไปในห้อง จึงเรียกนางเบ๋ง ภรรยา มา แล้วบอกความว่า ข้าจะจากไปเดี๋ยวนี้ เห็นจะตาย จะไม่ได้กลับคืนมาเห็นหน้ากันต่อไปแล้ว เจ้าจงอยู่รักษาบุตร ผู้คน บ้านเรือนต่อไปจงดีเถิด นางเบ๋งได้ฟังผัวว่าดังนั้นก็ร้องไห