ไม่รักขุนนางอันเป็นมือเป็นเท้าแล้ว ก็เหมือนยังอยู่แต่พระองค์เปล่า บัดนี้ ขุนนางและหัวเมืองทั้งปวงเป็นกบฏ พระองค์จะคิดเป็นประการใดจึงจะได้ทหารปราบศัตรูเล่า และเมื่อครั้งพระบิดาของพระองค์เสวยราชสมบัติอยู่นั้นย่อมเลี้ยงข้าราชการที่มีสติปัญญากตัญญูสัตย์ซื่อ หัวเมืองทั้งปวงแปดทิศก็มีความรักใคร่กลัวเกรง มาถวายเครื่องบรรณาการ แผ่นดินก็อยู่เย็นเป็นสุข ตั้งแต่พระองค์ได้เสวยราชย์มานี้ สักกี่ปีนักหนา ทำใหบ้านเมืองเกิดจลาจลต่าง ๆ จนข้าพเจ้าต้องไปปราบปรามข้าศึกปิ้มว่าจะเสียชีวิต หัวเมืองฝ่ายเหนือจึงสงบไป บัดนี้ มาเกิดเป็นศึกขึ้นทั่วทุกทิศ จะทำประการใด พระเจ้าติวอ๋องก็ยิ่งอยู่ มิได้ตรัสตอบ บุนไท้สือจึงว่า การทั้งนี้เป็นธุระข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะคิดอ่านกับขุนนางทั้งปวงชำระปราบปรามให้แผ่นดินราบคาบจงได้ ขอเชิญพระองค์เสด็จไปเถิด
พระเจ้าติวอ๋องได้ฟังดังนั้นก็เสด็จไป บุนไท้สือออกมายืนอยู่ที่ประตูวัง แล้วร้องประกาศขุนนางทั้งปวงว่า วันนี้ ให้ไปพร้อมกันที่บ้านเรา จะคิดราชการ แล้วบุนไท้สือก็ออกไปบ้าน ขุนนางทั้งปวงตามไปพร้อมกัน บุนไท้สือจึงว่า เราไปปราบศัตรูหัวเมืองฝ่ายเหนือช้าถึงสิบห้าปีจึงได้กลับมา ขุนนางผู้ใหญ่