อยู่ใต้โต๊ะ พระเจ้าติวอ๋องจึงทอดพระเนตรดูนางกาสี เห็นรูปทรงงามต้องพระทัย จึงตรัสว่า เจ้านั่งแอบอยู่ที่นั่นไยเล่า จงมานั่งด้วยกัน นางกาสีลุกขึ้นคำนับแล้วทูลว่า พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ จะเรียกข้าพเจ้าผู้เป็นข้าไปนั่งด้วยนั้นไม่สมควร นางขันกีจึงว่า พี่อย่าพูดดังนั้นเลย พระเจ้าติวอ๋องทรงพระเมตตา จึงตรัสเรียก เชิญมานั่งกินด้วยกันให้สบายเถิด แล้วพระเจ้าติวอ๋องจึงรินสุราส่งให้นางกาสี นางกาสีจึงทูลว่า บูเสงอ๋องก็เป็นข้าของพระองค์ ได้ทำราชการโดยสัตย์สุจริตมานานแล้ว เหตุไรพระองค์มากระทำแก่ข้าพเจ้าดังนี้เล่า แล้วนางก็ทูลลาเดินหลีกออกไป พระเจ้าติวอ๋องก็ลุกขึ้นกั้นหน้าไว้พลางส่งสุราให้ นางกาสีโกรธ ปัดถ้วยกระเด็นไป แล้วว่า พระองค์มาทำดังนี้ ข้าพเจ้าได้ความเจ็บอายนัก เหมือนแกล้งตัดศีรษะเสีย แล้วตัดพ้อนางขันกีว่า เป็นเพราะเจ้าจึงเกิดการทั้งนี้ แต่นางกาสีทูลลาพระเจ้าติวอ๋องเป็นหลายครั้ง พระเจ้าติวอ๋องก็ไม่ให้ไป นางกาสีก็จนใจ จึงวิ่งออกไปหน้าชานข้างนอก นางคิดสงสารถึงสามีกับบุตร ก็ร้องไห้ ครั้นเห็นพระเจ้าติวอ๋องเสด็จมาตาม ก็ร้องว่า เป็นกรรมแต่ก่อนได้ทำไว้มาทันแล้ว จึงเกิดการทั้งนี้
หน้า:Hongsin 2506 (1).djvu/321
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
เล่ม ๑
309