จ๋องเบ๋ง เตียวฮอง แต่งตัวใส่เกราะ ถือทวน ขี่ม้าขาว ขับออกมาหน้าทหาร แล้วร้องว่า ให้บูเสงอ๋องออกมาพูดกัน อึ้งปวยฮอได้ยินก็ขับโคออกไป ยอบตัวลงคำนับ แล้วร้องทักไปว่า ท่านอาผู้เฒ่า หลานนี้เป็นคนลำบากมา ซึ่งมิได้ลงจากหลังโคคำนับท่านโดยปรกตินั้น โทษมีแก่ข้าพเจ้าเป็นอันมาก ขอท่านอย่าได้ถือเลย เตียวฮองจึงว่า บิดาของท่านนั้นก็ได้สบถเป็นพี่น้องกับเรา แล้วพระเจ้าติวอ๋องก็ชุบเลี้ยงให้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ ตัวของท่านเล่าพระเจ้าติวอ๋องก็รักใคร่ดุจเชื้อพระวงศ์อันสนิท ชอบแต่จะมีใจสามิภักดิ์ต่อพระมหากษัตริย์ ช่วยทำนุบำรุงอย่าให้มีสิ่งขัดเคืองพระทัย จึงจะชอบ นี่ท่านมาเห็นกับหญิงผู้เดียว สิ้นความกตัญญูต่อเจ้าข้าวแดง ไม่ทำตามประเพณีปู่และบิดาของตัวซึ่งมีคุณต่อแผ่นดิน ได้เป็นขุนนางช้านานแล้ว ท่านมาคิดกบฏล้างความชอบของท่านเสียเอง เราเป็นผู้ใหญ่ พลอยได้ความอัปยศด้วย ซึ่งท่านหนีมาทั้งนี้ อย่าว่าแต่เดินมาเลย ถึงมีปีกบินได้ในอากาศ ก็คงไม่พ้นมือเรา ท่านจงฟังเราว่า เร่งลงจากหลังโคให้เรามัดส่งไปโดยดีเถิด ซึ่งโทษของท่านนั้น ไว้เป็นธุระเรา เมื่อเข้าไปถึงเมืองหลวงแล้ว จะช่วยทูลขอโทษไว้สักครั้งหนึ่ง เห็นพระเจ้าติวอ๋องจะโปรดอยู่ ด้วยท่านมีความชอบมาแต่
หน้า:Hongsin 2506 (1).djvu/333
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
เล่ม ๑
321