เป็นผลกรรมของข้าพเจ้าแล้ว ท่านจงค่อยอยู่จงดีเถิด ซึ่งข้าพเจ้าไปครั้งนี้ที่ไหนจะได้กลับมาเห็นท่านอีกเล่า นางเฮียสีได้ฟังดังนั้นก็กอดนางขันกีเข้าร้องไห้ด้วยความอาลัยมิใคร่จะจากกันได้ หญิงคนใช้ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ก็ปลอบนางเฮียสีและนางขันกีว่า ซึ่งท่านจะมาร้องไห้รักกันอยู่ดังนี้ ข้าพเจ้าเห็นหาควรไม่ การทั้งนี้จำเป็นจำจากกัน ขอท่านจงระงับความโศกเสียเถิด บัดนี้ เชาฮูคอยท่าอยู่ นางเฮียสีได้ฟังดังนั้นก็ค่อยคลายโศกลงเพราะความจนใจ หญิงคนใช้ก็คำนับเชิญนางขันกีไปขึ้นรถ เชาฮูก็ขึ้นม้า ให้ยกทหารออกจากเมืองกีจิวเฮ้า เชาชวนต๋งก็ตามออกไปส่งทางไกลเมืองประมาณสิบเส้น แล้วคำนับลาบิดากลับมาเมือง
ขณะนั้น เชาฮูจึงให้เอาธงแพรเหลืองสองคันให้ทหารถือไปหน้า และธงนั้นจารึกเป็นตัวอักษรว่า กุยหยิน แปลเป็นคำไทยว่า ผู้มีบุญ และเชาฮูให้ทหารรีบเดินประมาณทางเจ็ดวันก็ถึงเมืองอินจี๋น พอเวลาจวนจะพลบค่ำ เชาฮูจึงเข้าไปที่กงก๋วนเป็นที่ตำแหน่งขุนนางไปมาราชการเข้าหยุดพัก
ฝ่ายเจ้าพนักงานซึ่งรักษากงก๋วนจึงออกมาคำนับเชาฮู แล้วถามด้วยกิจราชการ เชาฮูก็แจ้งเนื้อความให้ฟังทุก