หยงกับป่วยเป๊กได้ยินปิกันปรึกษาดังนั้นก็เห็นชอบด้วย จึงให้เจ้าพนักงานตีระฆังซึ่งพระมหากษัตริย์แต่ก่อนให้ทำไว้ สำหรับขุนนางมีราชการร้อนมามิทันเฝ้าให้เข้าไปตีระฆังเชิญเสด็จ เจ้าพนักงานจึงเข้าไปตีระฆังสามทีเป็นสำคัญ
ฝ่ายพระเจ้าติวอ๋องเสด็จอยู่กับนางขันกี ณ พระตำหนักที่นั่งชมดาว ได้ยิงเสียงระฆัง จึงตรัสแก่นางขันกีว่า ขุนนางทั้งปวงเข้ามาตีระฆังหวังจะให้ออกว่าราชการบ้านเมือง ครั้นจะมิออกไปก็จะเสียประเพณีกษัตริย์แต่ก่อน ตรัสแล้วก็เสด็จลงจากพระตำหนัก นางขันกีก็ตามส่งเสด็จมาจนถึงที่นั่งข้างหน้า แล้วนางก็ถวายบังคมกลับไปที่อยู่ พระเจ้าติวอ๋องเสด็จนั่งที่ออกขุนนาง เห็นขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยถือหนังสือเรื่องราวที่จะกราบทูลข้อราชการอยู่ทุกตำแหน่ง ให้มีพระทัยเบื่อหน่ายในที่จะตัดสินข้อราชการ ขยับพระองค์จะเสด็จขึ้น ปิกันเห็นดังนั้นจึงทูลพระเจ้าติวอ๋องว่า ตั้งแต่พระองค์มิได้เสด็จออกว่าราชการบ้านเมืองมาถึงสองเดือนเศษ บังเกิดโจรผู้ร้ายชุกชุมขึ้นกว่าแต่ก่อน ราษฎรชาวเมืองทั้งปวงได้ความเดือดร้อน แต่นี้ไปขอเชิญเสด็จพระองค์ออกชำระกิจสุขทุกข์ของราษฎรหัวเมืองตามประเพณีกษัตริย์ อาณาประชาราษฎรซึ่งเป็น