หน้า:Khrai Yu Nai Akat 2547.djvu/17

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

เมียมันกับแม่ยายนอนบนเรือน มันอ้างว่าการเจ็บไข้ที่ยังไม่แข็งแรงควรนอนคนเดียวไปก่อนจนกว่าจะแข็งแรง มันเอาแต่ที่นอนลงมาเท่านั้นเมืองนี้ไม่มียุงนอนสบาย ผ้าห่มผืนเดียวก็พอแล้ว อ้ายกลั่นมันเล่าว่ามันนอนที่แคร่ใต้ถุนคืนนั้นยังไม่หลับ มันเห็นอะไรผิดตาก็นิ่งมองดู เหมือนใครบุญเรือนจะสูบบุหรี่แล้วดับก้นบุหรี่เป็นประกายไฟร่วงลงทางร่อง เจ้ากลั่นก็คงมองดูอยู่ สงสัยว่าทำไมบุหรี่จึงไม่ดับ เจ้าประกายไฟที่ร่วงลงมาคงกองแดงอยู่อย่างนั้น และในครู่นั้นเจ้าแสงไฟที่บุหรี่นั้นก็ค่อยเปลี่ยนจากสีแดงเรื่อ ๆ เป็นสีเรือง ๆ ขึ้น แล้วก่อตัวเป็นก้อนกลม ๆ เป็นดวงไฟ ทั้งทำการลอยตัวพ้นดินขึ้น เจ้ากลั่นถึงกับนอนตัวแข็ง ดวงไฟนั้นค่อย ๆ รอยสูงขึ้นจากพื้นดินในราวศอกหนึ่ง ลอยวนอยู่ใต้ถุน"

"เอ๊ะ มาใกล้นายกลั่นหรือเปล่า?"

"อ๊ะ! มาซิ มันลอยเข้ามาทีเดียว"

"นายกลั่นนอนเฉยเรอะ"

"เฉยได้เรอะ อ้ายกลั่นมันเกิดตัวก็ขยับตัวจะหนี เจ้าดวงไฟนั่นก็หยุดเฉยคล้ายจะรู้ว่าเจ้ากลั่นตื่นแล้วไม่ได้หลับ เจ้ากลั่นเล่าว่าที่ดวงไฟนั้นมีอะไรดำ ๆ คล้ายผ้าขี้ริ้วเปียกน้ำห้อยร่องแร่งมาด้วย ผมก็สงสัยว่าตามที่เคยได้ยินใคร ๆ เล่าให้ฟังว่าผีกระสือลอยไปไหนจะมีไส้ห้อยตามไปด้วย และที่ไส้ห้อยนั้นจะมีแสงไฟคล้ายกับว่าจะหยดเรี่ยไปทีเดียวเป็นสายเรี่ยราดไป แต่นี่เจ้ากลั่นมันว่าไอ้ที่ห้อยมานั้นไม่มีแสงเลย มันดำ ๆ ลักษณะเป็นผ้าเปียกน้ำห้อยมา มันบอกว่ามันจะดูให้ถนัดว่าอะไรกันแน่ แต่ก็ดูไม่ถนัด เพราะแสงจากดวงกลมนั้นมันเข้าตา ความที่เจ้ากลั่นกลัว มันก็ร้องด่าไปหยาบ ๆ คาย ๆ แล้วง้างมือง้างแขนว่าไปวาดมาเจ้าดวงไฟก็กลัวจะถูกเลยลอยหนี เจ้ากลั่นก็เลยเตะลมตามไปหลายวืดแต่ไม่ถูก เพราะลอยหนีไปทัน มันลอยไปทางบ้านอื่นแล้วเลยเข้ารกเข้ากรงหายไป"

"นายกลั่นเห็นจะรีบหนีขึ้นเรือนซิ?"

"ขึ้นอะไรล่ะ ก็อ้ายกลั่นมันเห็นว่ากระสือลงมาจากเรือนมันแท้ ๆ มันจะขึ้นไปทำไมล่ะ ก็เลยหนีไป เคาะกระต๊อบเพื่อน ๆ กัน เล่าให้ฟัง