หน้า:Khrai Yu Nai Akat 2547.djvu/22

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
24
 

ยุคใหม่นี่เอง ไป ๆ มา ๆ จะต้องเชื่อว่าโลกนี้มีผี เหตุการณ์ที่บ้านมันยุ่งยากและมีท่าทางว่าจะเกิดภูตผีปิศาจขึ้น แต่ก่อนมาเมื่อศรียังเด็ก ๆ ไม่เคยมีอะไร ๆ แปลกอย่างเวลานี้ มันทำให้ศรีหวาด ๆ ไปว่ามันจะเป็นภูตผีปิศาจจริง ๆ” ประภาศรีพูดกับผม

“มีอย่างไรบ้างที่ศรีคิดว่าเรื่องทั้งหมดจะเกี่ยวกับผีกับสาง” ผมถาม

เธอเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วถอนหายใจยาวก่อนจะพูด

“โฮ้ย! มีมากอย่าง” เธอพูดพลางผ่อนลมหายใจ “บ้านศรีน่ะมีพื้นที่กว้างขวาง มีต้นไม้ใหญ่ชนิดตกผลมากต้นแทบจะเป็นสวนหรือป่าไม้ย่อม ๆ เชียวนะ แต่ว่าก่อนเก่าเคยเป็นที่รื่นรมย์และร่มเย็น เดี๋ยวนี้มันน่ากลัว เจ้าหมู่ไม้ใหญ่ ๆ นั้นคล้ายจะเป็นที่สิงสู่ของภูตผีปิศาจไปเสียแล้ว”

“มันเป็นไงล่ะ ?”

“พ่อของศรีมีจดหมายมาบอกว่า เจ้าดงไม้เหล่านั้นเวลากลางคืนจะยวบยาบและเกรียวกราวโครมครามเหมือนมีพายุใหญ่แทบจะหักลงทั้ง ๆ ที่อื่นไม่มีลมเลย เสียงอะไรต่ออะไรหล่นร่วงตุ้บตั้บไปทั่วลานบ้าน พอนานวันเข้าคนงานที่เคยอยู่ในบ้านมากคนด้วยกันเกิดกลัวภูตผีปิศาจเหล่าลูกเล็กเด็กแดงก็ชักจะไม่สบาย เลยขอย้ายออกจากบ้านไปหมด ขอไปอยู่ที่อื่น จะมาทำงานเฉพาะกลางวันเท่านั้น ในบ้านเราจึงเหลือเฉพาะที่อยู่บนเรือนเพียงเจ็ดแปดคนเท่านั้น”

“เอ๊ะ! มันเลยกลายเป็นกลียุค”

“นั่นน่ะซี กลางคืนคล้ายจะมีภูตผีเดินเต็มบ้าน ทุกคนหวาดกลัวนอนไม่หลับ ศรีรู้เรื่องแล้วจึงกลับไปบ้านและนอนค้างสองสามคืนเพื่อดูเหตุการณ์ให้แน่กับตาตนเอง ก็พบว่าที่บ้านเดี๋ยวนี้น่ากลัวจริง ๆ มันเงียบเหงา เมื่อตกเวลาชิงพลบ พอค่ำมากเข้าแผ่นดินกระเทือนเหมือนมีคนมากคนเดินบ้างเต้นบ้างกึกก้อง หมูหมาเห่าและหอนกันเกรียว กิ่งไม้ยวบยาบกร้วมกร้ามเหมือนจะหักโค่น คนบนบ้านทั้งหมดขวัญเสียไม่มีใครกล้าลงไปดู พอเช้าขึ้นก้อนดินและอิฐกลาดเกลื่อนไปทั่วแผ่นดินนี่แหละ! ที่ศรีได้ไปเห็นมากับตาตนเอง และเมื่อก็รู้กันอยู่แก่ใจว่าคนทั้งหมดไม่ได้ไปทำให้เกิด แล้วใครกันเป็นผู้ทำ”