ประถมปาราชิกถึงเปนคดีฟ้องร้องแล้วก็ดี ฤๅลเมิดพระพุทธบัญญัติข้อนี้ในกาลข้างน่าก็ดี ให้กล่าวหาเปนลำพังอธิกรณในคณะสงฆ์ แลลงโทษผู้ผิดโดยพระพุทธบัญญัติส่วนเดียว
มาตรา๖เมื่อภิกษุลเมิดพระพุทธบัญญัติประถมปาราชิก ให้เปนน่าที่ของเจ้าพนักงานผู้รักษาท้องถิ่นจับตัวคุมขัง แล้วส่งไปยังกรมธรรมการ เพื่อจะได้ส่งตัวให้คณะสงฆ์พิจารณาต่อไป
มาตรา๗ให้คณะสงฆ์ผู้พิจารณาอธิกรณ์ประถมปาราชิกมีอำนาจสั่งกรมธรรมการหมายเรียกพยานฤๅให้ผู้ใดส่งหนังสือฤๅวัดถุมาเปนพยาน กับให้เปนน่าที่ของกรมธรรมการออกหมายเรียกพยานมาเบิกความต่อหน้าคณะสงฆ์ แลออกหมายเรียกสรรพหนังสือฤๅวัดถุอย่างใด ๆ สุดแท้แต่คณะสงฆ์จะปรารถนา
บุคคลผู้ได้รับหมายให้มาเบิกความเปนพยาน (รวมทั้งหญิงคนกลางด้วย) ฤๅผู้ซึ่งกรมธรรมการปรารถนาจะให้ส่งหนังสือฤๅวัดถุมาเปนพยาน ขัดขืนไม่ปฏิบัติการตามหมายฤๅคำสั่งของกรมธรรมการอันชอบด้วยกฎหมาย โดยมิได้มีเหตุฤๅข้อแก้ตัวอันสมควร ให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๑๑๗
พระราชบัญญัติตราไว้ณวันที่ ๒๓ เมษายน พระพุทธศักราช ๒๔๖๓ เปนปีที่ ๑๑ ในรัชกาลปัตยุบันนี้