หน้า:Kotmai Mueang Thai 1882 vol 1.pdf/412

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๔๐๙
๏ ลักษณพยาน ๚ะ

จะกล่าวถึงลักษณอันชื่อสักขีนั้นมีบาฬีว่า โยจายังปิสัจจะภูโต ยุตโตสักขีตินามะโก โสปิธัมโมวิวาทานัง กังขะฉินทะนิทัสสะโน แปลว่า โยจะอะยังธัมโม อันว่าสภาวะอันใด สัจจะภูโต มีสภาวะรู้เหนได้ยินโดยจริง กังขะฉินทะนิทัสสะโน อันสำแดงซึ่งข้อความให้ขาดสงไสย วิวาทานัง แห่งชนทั้งหลายผู้วิวาทกัน โสปิธัมโม แม้นอันว่าสภาวะนั้น สักขีตินามะโก มีชื่อ ๆ ว่าสักขีคือพยาน ยุตโต ก็ควร อนึ่ง สาขะคดีอันมีโดยพระคำภีรพระธรรมสาตรอันสมเด็จบรมราชกระษัตริยบัญญัติจัดเปนบทมาตราสืบ ๆ กันมาดังนี้ ๚ะ

ศุภมัศดุ ๑๘๙๔ พยัคฆสังวัจฉะระ เชษฐมาเส กาฬปักเข เอกาทัศมีดิถียัง อาทิตยวาร พระบาทสมเด็จพระเจ้ารามาธิบดีศรีสุนธรบรมนารถบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวผู้ผ่านกรุงเทพมหานครบวรทวาราวะดีศรีอยุทธยามหาดิลกภพนพรัตนราชธานีบุรีรมย์อุดมมหาสฐาน ผู้ทรงทศพิธราชธรรมอันประเสริฐ เสด็จสถิตยณะพระที่นั่งรัตนสิงหบัญชรมหาปราสาท พร้อมด้วยหมู่มาตยาภิมุขมนตรีกระวีชาติราชประโรหิตตาจารยเฝ้า พระบาทสมเด็จบรมนารถบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวจึ่งมีพระราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำหรัสแก่ผู้พิภาคษาสุภาตระลาการทุกกระทรวงถบวงการว่า เมื่อตระลาการจะเผชิญพยานไซ้ ให้ตระลาการประกาศจำเภาะหน้าพยานว่า สมเด็จพระกุกกุสนธพระโกนาคมพระกัษษยปทั้งสามพระองคนี้ได้ตรัสแก่พระสรรพัญุตัญาญาณ