หน้า:Kotmai Mueang Thai 1882 vol 1.pdf/415

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
412
ลักษณพยาน

อนึ่ง ให้ผู้พิภาคษาสุภาตระลาการเลงดูคำพยานนั้นโดยระบุสำนวน ควรที่จะฟังก็ให้ฟัง มิควรที่จะฟังอย่าให้ฟัง ให้ฟังเอาคำพยานแต่ที่อันจริง ได้เนื้อความประการใด จึ่งให้เลงดูคำศักขีพยาน แลให้ผู้พิภาคษาตั้งสติปัญาผูกพันธในอารมณ พิจารณาดูโทษอันใหญ่/น้อย อันมีในภายในภายนอกสรรพการแห่งอาตมาภาพให้แจ้งในปัญาก่อน แล้วจึ่งให้ตั้งใจปลงฟังคำพยานจงหนัก อย่าให้ลุอำนาทแก่ใจอันเปนบาป แลพิภาคษาว่ากล่าวกอบประด้วยปัญาจงเลอียด อย่าให้เหลาะแหละปากเบา จึ่งจะสมเปนใหญ่ในที่พิภาคษาปรับคดีทั้งปวง แม้นจะว่ากล่าวพิภาคษาเนื้อความคดีทั้งปวงนั้น ให้เลงดูในคำพยานแลทางความให้เหนแน่ในใจคนเดียวก่อน ถ้าได้พิภาคษาว่ากล่าวออกไปแล้ว มีผู้เหนคดีนั้นบมิควรแลจะทักท้วง ควรให้รื้อพิภาคษาพิจารณาไปจงได้จริง อย่าลุอำนาทมัวเมาถือทฤฐิมานะ จะได้ปราไชยแก่ผู้มีปัญาเปนอันเที่ยงแท้ ผู้พิภาคษาสุภาตระลาการจงรู้ในลักษณพยานทั้ง ๕ ประการนี้ ก็ย่อมเปนที่สรรเสริญแก่บุทคลทั้งปวง แลพยาน ๕ ประการนั้น คือ ราชสกูลประการ ๑ พราหมณสกูลประการ ๑ แพทยสกูลประการ ๑ สุทธ์สกูลประการ ๑ หินะสกูลประการ ๑ อันว่าพิเคราะหสกูลแห่งพยาน ท่านกล่าวไว้ดังนี้ อนึ่ง ในลักษณพยานประกอบด้วยองค ๖ ประการ คือ บุทคลประกอบด้วยเคหาสฐานอันบริบูรณ ๑ คือว่าบุทคลอันบริบูรณด้วยลูกหลานมาก ๑ คือว่าบุทคลประกอบด้วยน้ำใจเปนสัปะรุษ ๑ คือว่าบุทคลมีน้ำใจประกอบด้วยกุศล ๑ คือว่าบุทคลประกอบด้อยกระกูลเปนเศรษฐีอันประเสริฐ ๑ คือว่าบุทคลเปนที่สะการบูชาแก่คนทั้งปวง ๑ อันว่าบุทคลประกอบด้วยองคหกประการนี้จึ่งควรให้ตระลาการถามเอาผู้นั้นเปนพยาน ๚ะ