ฉุดให้พระวาจาออกจากพระโอษฐ์ได้ ฝ่ายเวตาลเมื่อเห็นพระราชาทรงนิ่งอยู่ดังนั้นก็กล่าวต่อไปว่า
"ข้าแต่พระองค์ผู้เปนใหญ่ในหมู่นักรบ พระองค์จงรำลึกถึงคำซึ่งอสูรปัถพีบาลได้ทูลไว้ว่า ผู้ใดมุ่งจะฆ่าชีวิตพระองค์ ๆ อาจตัดหัวผู้นั้นเสียก่อนได้โดยคลองธรรม แลในการข้างน่าซึ่งจะเปนไปตั้งแต่บัดนี้ พระองค์พึงปฏิบัติตามคำที่อสูรกล่าวนั้น ส่วนพ่อค้าพลอยซึ่งถวายทับทิมแก่พระองค์เปนอันมาก แลโยคีชื่อศานติศีลซึ่งกระทำพิธีอยู่ที่ป่าช้าริมฝั่งแม่น้ำโคทาวรีนั้น คือคน ๆ เดียวกัน แลมิใช่ใครอื่น คือโยคีซึ่งพระราชบิดาแห่งพระองค์ได้กระทำเหตุให้โกรธแลมาดหมายจะแก้แค้นเปนเวรกันอยู่จนบัดนี้ ส่วนข้าพเจ้าผู้เปนลูกพ่อค้าน้ำมันนั้น โยคีกลัวว่าจะกระทำการกีดกั้นความเปนใหญ่ในโลกของเขา จึ่งฆ่าข้าพเจ้าเสียด้วยอำนาจตะบะ แลพาศพข้าพเจ้ามาแขวนห้อยหัวไว้ที่ต้นอโศกเปนเครื่องล่อลวงพระองค์
"โยคีนั้นเปนผู้ใช้ให้พระองค์มาปลดข้าพเจ้าแบกไปให้แก่เขา แลเมื่อพระองค์ทรงทิ้งข้าพเจ้าลงที่เท้าเขาในคืนวันนี้ เขาจะสรรเสริญความกล้าแลความเพียรของพระองค์ขึ้นไปจนถึงฟ้า ข้าพเจ้าขอทูลให้รู้พระองค์แลระวังพระองค์จงหนัก เพราะโยคีคงพาพระองค์ไปที่น่ารูปนางทุรคา แลเมื่อเขาได้บูชาแล้ว เขาจะเชิญให้พระองค์เคารพเทวรูปโดยอัษฎางคประณต"
ตรงนี้เวตาลทูลกระซิบค่อย ๆ ประหนึ่งเกรงว่าจะมีผู้ได้ยินแลนำคำที่กล่าวนั้นไปบอกโยคีศานติศีล ครั้นทูลเสร็จแล้ว เวตาลก็ออกจากศพ ทำให้ย่ามซึ่งพระราชาทรงแบกอยู่นั้นเบาเข้าเปนอันมาก แต่เมื่อได้ออกจากย่ามแล้ว ยังลอยกล่าวสรรเสริญพระราชาแลพระราช