หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

ไม้ นักเลงทุก ๆ รุ่น และหนุ่มคะนองกำลังแตกเปลี่ยว ไม่ว่าหน้าไหนบางไหน เมื่อออกชื่อเจ้าขวัญ ลูกบ้านทุ่งปลายน้ำบางกะปิแล้ว ต้องรู้จักดี หลีกหมด เมื่อไม่หลีกก็เจอกันเท่านั้นเอง แต่นี่ล่ะ ตาเรืองเอย อ้ายเริญเอย ล้วนแต่สังคะญาติที่สำคัญ ๆ ของเจ้าเรียมทั้งสิ้น จะทำลงไปยังไง

เหม่อมองไปอีกฟากหนึ่ง อีเกกับอ้ายเรียวกำลังคลอคู่ลอยฟ่องอยู่กลางน้ำ มันเปนควายเดรจฉานก็ยังรู้รักรู้ปลื้มกันตามประสา หันมามองเจ้าของ―เออ เจ้าเรียมกำลังร้องไห้อยู่หว่างอก ร่ำรำพันถึงทุกยากที่จะต้องประจัญในข้างหน้า ตลอดคลองนี้ไม่มีใครสรวยล้ำไปกว่าเจ้าเรียม จนหนุ่ม ๆ ติดกรอ แต่เจ้าเรียมไม่เล่นกับใคร อุส่าห์ถนอมตัวมามอบรักกับเจ้าขวัญ

เหลือที่เจ้าขวัญจะใจแข็งอีกต่อไป ซบหน้าลงกับหัวเจ้าเรียม น้ำตาไหลหยดลงเส้นผม เจ้าเรียมเมื่อรู้ว่าขวัญร้องไห้ เจ้าก็ยิ่งร้องใหญ่ เจ้าขวัญก็คิดแค้นในวาสนาอาภัพไปต่าง ๆ นี่มันเปนครั้งแรกคนแรกจริง ๆ ที่เห็นน้ำตาอ้ายขวัญ อ้ายหนุ่มตัวยง ลูกทุ่งปลายน้ำ

"พี่ขวัญร้องไห้ พี่ขวัญยังเคืองพ่อกับพี่เริญหรือ อย่าเลย พี่ขวัญ อย่าคิดอาฆาตแกเลย นึกว่าเห็นแก่ฉันเถอะ"

"เปล่าหรอก เรียม พี่เจ็บใจวาสนาของเรา พี่ไม่อาฆาตแกหรอก เพราะแกก็เท่ากับพ่อของพี่เหมือนกัน ถึงอ้ายเริญก็เถอะ พี่อโหสิให้มันแล้ว เพราะเห็นแก่เจ้า"

"จริงหรือ พี่ขวัญ" เจ้าเรียมคยั้นคยอ ไม่ค่อยจะเชื่อ เพราะเคยรู้ฤทธิ์รู้คมเจ้าขวัญมาดี "ถ้างั้นพี่ขวัญก็รักฉันมากเหลือเกิน ใช่ไหมจ๊ะพี่"

"ใช่แท้เทียว เรียมเอ๋ย พี่ไม่เห็นว่าอะไรจะน่ารักไปกว่าเรียมของพี่จริง ๆ" เจ้าลูกผู้ใหญ่บ้านยืนยัน "พี่คิดถึงวันหน้าแล้วก็อยากจะร้องไห้เสียงดัง ๆ พอได้โล่งใจ พี่คิดเผลอไปว่า ถ้าผู้ใหญ่เขาดีกันแล้ว พี่จะให้พ่อแกไปสู่ขอเจ้า แล้วต่อไปเราคงเปนศุขมากทีเดียว เรียม นาของพ่อแกมีถึง ๕๐ ไร่ และพี่ก็เปนลูกคนเดียว ต้องได้หมดทั้งห้าสิบ เช้าไปนา เย็นกลับบ้าน 

๑๐