เราเห็นหน้ากันก็เปนศุขจริง ๆ หัวใจของพี่ไม่แส่หาอะไรมากมาย ในน้ำมีปลา ในนามีเข้า และที่บ้านมีเรียมอยู่ พี่ก็แสนสบาย เมื่อพ้นหน้าเกี่ยวหน้าลานแล้ว เราก็มีเงินซื้อทองแต่งเที่ยวงานวัดหรือเข้าบางกอกพออวดเพื่อน ๆ เขาได้ แต่ว่า―เอ๊อ เจ้าก็รู้เห็นอยู่ยังงี้ และจะให้พี่ทำยังไงดีกว่าร้องไห้เล่า เรียมเอ๋ย"
แต่เกิดมาครั้งนี้เปนครั้งแรกที่ต้องใช้ความคิด สติปัญญาและความรอบรู้ของเจ้าขวัญก็เพียงอ่านหนังสือแตก เขียนไม่ค่อยคล่อง แต่เจ้าเรียมได้แต่อ่านออก หากจะเขียนก็ตู่ตัวเต็มทน ฉะนั้น งานนี้จึงเปนงานใหญ่ที่หนักอกสำหรับความคิดของเจ้ารักเจ้างามทั้งคู่
กอดรัดจูบซ้ายจูบขวากันอยู่อีกครู่ใหญ่ เจ้าเรียมก็ระลึกได้ว่า บอกกับพ่อว่าจะพาอีเกมาอาบน้ำเพียงครู่เดียวเท่านั้น จึงชวนขึ้น
"เรากลับกันทีหรือพี่ เพราะนี่มันนานนักแล้ว เดี๋ยวพ่อแกให้พี่เริญมาตามพบเข้าจะเกิดความใหญ่ พรุ่งนี้เราถึงมากันใหม่ และบางทีฉันจะเลยไปที่ศาลจ้าวพ่อด้วย"
"ก็ดีเหมือนกัน" เจ้าขวัญคล้อยตาม มองหน้าสาวตลึงตไลเสียดายที่จะต้องจากกัน "พี่ไม่อยากห่างเรียมเลย เพราะคืนนี้ทั้งคืนจนกว่าจะถึงพรุ่งนี้มันดูนานราวกะสักปีหนึ่งทีเดียว―เอา ไปก็ไป เรียมเกาะหลังเถอะ พี่จะว่ายไปเอง"
แล้วเจ้าขวัญก็ผละตลิ่งโผออก วาดแขนแหวกน้ำสุด ๆ แร้ ข้อลำ และกล้ามเนื้อที่สร้างขึ้นด้วยหางไถ ว่ายน้ำ และผ่าฟืน ก็วาดไปวักไปอย่างชำนิชำนาญ ไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าอะไรเลยในการที่มีหญิงยอดชีวิตของมันเกาะหลังพ่วงไปทั้งคน พอถึงตลิ่งและขึ้นฝั่งได้ ก็พบอ้ายเรียวกับอีเกกำลังเอื้องหญ้าอ่อนอยู่อย่างเอร็ดอร่อยเพลิดเพลินใกล้ ๆ กัน
ไ ทรใหญ่ยืนต้นตระหง่านห่างฝั่งคลองเพียง ๓–๔ วา เปน |