"อ้ายจ้อยเขาพูดว่าไรมั่ง" เจ้าขวัญถามระแวง ๆ
"เขาก็พูดไปตามเรื่องของเขากับพี่เริญ ลงท้ายก็เลี้ยงเหล้ากัน ฉันรำคาญเลยรีบหลบมาเสียก่อน"
"บ๊ะ แดดร้อนตวันเที่ยงยังงี้ มันยังจะดวดกันอีกหรือ?" แล้วเจ้าขวัญก็แค่นหัวเราะออกมาดัง ๆ
เจ้าเรียมไม่ตอบว่ากระไร ตะเพิดอีเกลงน้ำแล้วกลับมานั่งที่เก่าใกล้ ๆ เจ้าขวัญ ถามว่า
"พี่ขวัญมีไม้ขีดมั่งไหม?"
"มี เจ้าจะเอาทำไม"
"จุดธูปบูชาเจ้าพ่อสักหน่อย"
เจ้าขวัญพอจงะรู้ แต่ยังไม่แน่ใจ จึงถามว่า
"จะบนอะไรจ๊ะเรียม หรือว่าเสี่ยงทายความในใจเรื่องไรก็จงบอกให้รู้มั่ง" ถามเปนนัยแล้วก็เอนกายชะโงกมาให้ตรงหน้าเจ้าเรียม
นึกอายเพราะถูกเจ้าขวัญล้วงใจดำ ก้มหน้าลงคุ้ยเขี่ยดินอย่างจนแต้ม เจ้าขวัญเห็นเปนทีเลยรั้งตัวนอนบนตัก จูบเจ้าเสียอย่างสมรักที่ทำให้คอยนาน
"เอ๊ พี่ขวัญ ช่างไม่นึกอายผีสางเทวดามั่งเลย"
"เราอยู่ด้วยกันเท่านี้ จะอายใครอื่นอีกเล่า เรียมเอ๋ย"
"เจ้าพ่อน่ะซี" เรียมว่า
"ท่านอยู่ส่วนท่านหรอกเรียม และเราสองคนก็เคยถวายตัวเปนลูกท่านมาแต่เล็ก ๆ ด้วยกัน ท่านจะว่ากระไร"
นับว่าเปนครั้งที่สองซึ่งเจ้าเรียมถูกชายต้อง อกใจระทึกตกประหม่าไม่ผิดกับเมื่อวันวาน เจ้าขวัญก็ทั้งจูบทั้งกอดกำลังบ้ามุทะลุด้วยฤทธิ์รัก
"เจ้าจะบนอะไรฮึแม่เรียม บอกให้พี่รู้มั่งซี จะได้ช่วยกันภาวนาให้สำเร็จ"
"เรื่องของเราซีจ๊ะพี่ขวัญ"
"เรื่องของเรา" เจ้าขวัญท่องซ้ำ "เรียมจะบนเจ้าพ่อให้ท่านดลใจผู้ใหญ่ของเราให้แกดีกันแล้ว เรื่องของเราจะได้สำเร็จงั้นน่ะหรือ"
"ฉันก็อยากจะให้เปนยังว่าหรอก แต่น่ากลัวมันจะไม่สำเร็จเสียแหละจ้ะ"
"งั้นเจ้าจะบนให้เปนอะไรขึ้นมาอีกล่ะ"