หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

หน้าตอบเสียงเครือ

"บนอะไร"

"ให้ความตั้งใจของเราตลอดรอดฝั่งไปซิเรียมเอ๋ย เพราะมันกรรมของเราแล้วจะทำยังไงได้ล่ะเจ้า เรารักกันแต่คนอื่นเขาโกรธกันแล้วใครเล่าเขาจะรู้อกเรา มีอยู่แต่เจ้าพ่อนี่เท่านั้นที่จะช่วยเราได้ เจ้ากระเถิบเข้ามาชิด ๆ เถอะเรียมเออ ประณมมือเข้าเถิดแล้วข้าจะจับมือเจ้าตั้งจิตต์อธิฐานร่วมกันไปยังงิ้และ ยังงี้ดีแล้ว เราอยู่กันอย่างงี้ทั้งวันทั้งคืนก็สุขสบายเหลือหลาย"

พอสิ้นคำรำพรรณ สองหนุ่มสาวก็หมอบนิ่ง จิตต์ผูกจิตต์ใจผูกใจเหมือนหนึ่งเปนดวงเดียว คิดไปแค้นไปในวาสนาของลูกชาวนาที่อาบเหงื่อต่างน้ำหาเช้ากินค่ำ หวังจะอยู่ร่วมฟูกร่วมหมอนช่วยกันทำช่วยกันกิน เอารักขึ้นตั้งหน้าก็มีเวรแซก

เจ้าเรียมร้องไห้กซิก ๆ และค่อย ๆ ดังขึ้นทุกขณะ เจ้าขวัญก็ขบกรามกรอด ๆ เพื่อทนทานต่อความทุกใจ ครั้นได้ยินเสียงเจ้าเรียมสอื้นก็เลยกลั้นไม่ไหวปล่อยน้ำตาพรากลงนองดิน

เสียงฝีเท้าวิ่งตึ้กตั้กมาข้างหลัง ทั้งเจ้าขวัญและเรียมสดุ้งสุดตัว ลุกพรวดพราดขึ้นยืนหันกลับมา

"อีเรียม มึงมาทำไมที่นี่"

เรียมหน้าซีดขาว ตัวสั่นยืนประณมมือ มองดูเจ้าขวัญแล้วร้องไห้ และตอบไปว่า

"เปล่าจ้ะ-พ่อ"

"เปล่า ฮึ้เปล่า" ตาเรืองหัวเราะอย่างแค้น ๆ ยกดาบชี้มาทางเจ้าขวัญ "แล้วนั่นสัตว์เดรฉานที่ไหนล่ะ"

เจ้าขวัญตัวสั่นเทิ้มใจเต้นริก ๆ มองดูเจ้าเรียม แล้วนึกสงสาร จึงหักใจตอบตาเรืองไปดี ๆ ว่า "ฟังฉันก่อนจ้ะพ่อ อ้าแม่เรียมไม่ได้ยุ่ง"

เจ้าเริญซึ่งถือดาบอยู่กับพ่อจ้อยข้างหลังตาเรืองรีบสอดขึ้นว่า "อ้ายโกหก ไม่ได้ยุ่งชิ๊ ๆ ไม่ได้ยุ่งแล้วมึงเสือกล่ออีเรียมมานี่ทำไม"

"อ้ายเริญ" เจ้าขวัญเรียกลาก ๆ เสียง "ปากคอมึงอย่าเราะรานนักนา เฮ้ย อ้ายเรามันรุ่นเดียวกับกูยอมมึงไม่ได้ หรอกน๊ะ ลำพังพ่อกูยอมให้เพราะแกเปนผู้ใหญ่"

๑๗