"เมื่อพ่อขอ ฉันก็จะยกให้ แต่อ้ายจ้อยน่ะ ฉันต้องจำจนวันตายทีเดียวว่า มันถีบหน้าฉัน" แล้วจึงหันมาพูดเปนนัยเพื่อเตือนให้เจ้าเรียมระลึกได้ว่า "ฉันไม่ลืมคำหรอกเรียม ฉันได้สาบาลไว้แล้วว่าอย่างไรก็อย่างนั้น เรียมดูโน่นก็แล้วกัน แล้วจำไว้ด้วยว่า นั่นมันเปนเครื่องเส้นของฉัน มันเปนพะยานที่ข้าได้สาบาลให้เจ้าจำไว้⟨"⟩
เรียมสอึกสอื้น เจ้าขวัญใจช่างซื่อในความรักเสียจริง ๆ เลือดมันรักมันอยู่ที่เจ้าเรียมคนเดียว
"ฉันก็ลืมไม่ได้เลยจ้าพี่ขวัญ ฉันจะจำใส่ใจไว้ว่า เราสาบาลว่าจะรักจะรอกันตลอดชาติต่อหน้าเจ้าพ่อ" แล้วเจ้าก็ร้องไห้โฮ ๆ ต่อหน้าตาเรือง
ตลอดทางกลับบ้าน ก่อนที่จะแยกกัน ทั้งตาเรืองและเจ้าขวัญหนุ่มพูดจาสนิทสนมเหมือนเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงที่รักกันมาแต่ครั้งไหน ๆ ทำให้เจ้าเรียมโล่งอกขึ้นอีกถนัด มองเห็นขันหมากของผู้ใหญ่เขียนกำลังเดินตัดทุ่งเข้าเนื้อนาเจ้าในความฝัน
๗ วันของเจ้าเรียมมันก็เหมือนตกนรก เมื่อก่อนคิดว่าพ่อจะเห็นอกเห็นใจ จะได้ส่งข่าวไปให้เจ้าขวัญรู้และจัดคนมาสู่ขอ แล้วเจ้าเรียมก็จะเปนสุข ได้อยู่ใกล้เจ้าขวัญตลอดวัน พอลืมตาขึ้นหรือค่ำลงก็จะมีเจ้าขวัญอยู่ข้างเคียง ฟังมันพูดฟังมันวอน เมื่อเจ้ามีโมโห มันก็พูดออเซาะตลกขบขัน แต่ความคาดความฝันนั้นต้องเหลวไป