หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

พ่อมีจดหมายมาบอก" เธอชูจดหมายฉบับนั้นไห้ดู

"ก็ไปซีเรียม เพราะท่านเปนแม่และคุณอาก็มิได้ว่ากระไร ยังพูดกับฉันเลยว่าบางทีจะไปด้วย"

"ฉันอายบ้าน" เรียมพูดขึ้นตรง ๆ "อายคุณสมและแม่นายที่จะไปเห็นสภาพที่นอนกลางดินกินกลางหญ้าของฉันเมื่อครั้งโน้น" แล้วเธอหัวเราะไม่เต็มเสียง

"แล้วกันเรียม นั่นไม่ใช่สิ่งจำเปนที่ฉันจะยกขึ้นวัดความพอใจของฉันที่มีต่อเธอเลยนี่แน่ะเรียม, พูดก็พูดเสียเถอะ" แล้วสมชายก็นิ่งปล่อยให้ข้อความที่จะพูดนั้นเปนน่าที่ของเรียมจะคิดเอาเอง

"อะไรล่ะค้ะ ดิฉันไม่ทราบความหมายอะไรเลยตามที่คุณว่า"

"ความหมาย" เขาจ้องเปนการเปนงาน "ฉันจะมีความหมายอะไรอีก นอกจากขอเปลี่ยนเรียกชื่อเรียกว่าโฉมยง และเธอก็ทราบแล้วมิใช่หรือว่าโฉมยงกับฉัน คืออะไร?"

เรียมเอียงอาย คำพูดของคุณสมทั้งหว่านทั้งล้อม

"เรียมไม่บังอาจถึงเพียงนั้นหรอกค่ะคุณโฉมเปนบุตร์ของแม่นายแท้ ๆ แต่ 'แล้วเธอก็มองดูตัวเธอเอง' "แต่เรียมเปนชาวนาเรียมเปนทาษน้ำเงินซึ่งแม่นายซื้อไว้ เท่าที่ท่านเอ็นดูและรักใคร่ให้ความศุขมีหน้ามีตาเท่านี้ก็เปนวาสนาอยู่แล้ว"

"เธอช่างคิดและคิดถูกมากทีเดียวเรียม แลความคิดถูกของเธอนี่และ มันมีราคาสำหรับฉันมากเหลือเกินและเรียมต้องไม่ลืมว่า ฉันขอให้เรียมเปนโฉมยงของฉันนะจ๊ะ"สายตาของสมชายวิงวอนด้วยความจริงใจ

เรียมเศร้าใจหวนไปคิด ๓ ปีโน้นถ้าใครพูดกับเธอเช่นนี้เรียมจะไม่เข้าใจว่าเขาพูดมีความหมายเช่นไรเลย แต่เดี๋ยวนี้เธอเข้าใจอย่างจะแจ้ง นึก ๆ ก็น่าสงสารอยู่บ้างหรอกที่คุณสมชายเปนถึงลูกพระยาและเปนหลานของแม่นายยังอุส่าห์ถ่อมตัวมาขอความรักจากผู้หญิงเช่นเธอ แล้วแผลในใจของเจ้าขวัญก็ผุดขึ้นในหัวอก

๓๑