หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

อย่างผู้ดีบางกอกจนทำให้เจ้าขวัญตกประหม่า ใจหนึ่งใคร่รักในเจ้าเรียม อีกใจหนึ่งยำเกรงในเครื่องแต่งกายและทีท่าบางกอกของเจ้าเรียมนักหนา

มันแหงนหน้าจับฟ้าเห็นเดือนขึ้น เดือนกำลังจะหงายเหมือนเมื่อคืนซึ่งมันต้องเก้อจนแทบฆ่าตัวตาย แต่เดือนหงายคืนนี้ก็คงทำให้มันเศร้าอยู่นั่นเอง

"พี่จะต้องลาเจ้าก่อนเพราะเดือนขึ้นแล้ว หน่อยอ้ายเริญหรือใครมาเห็นเข้า พี่ก็ขี้เกียจรำคาญ"

เรียมก็อาลัยมัน แต่มองเห็นความจริงตามเจ้าขวัญพูดอยู่มาก

"ถูกของพี่ขวัญ เชิญเถิดแล้วเราถึงค่อยพบกันใหม่ เพราะพรุ่งนี้พ่อแกจะให้ฉันไปที่ศาลเพื่อบนให้แม่หาย แต่แกจะให้ฉันไปกับพี่เริญหรือเจ้ารอดยังไม่รู้ได้เลย"

"เอาอ้ายรอดไปเถอะเรียม พี่จะได้ไปด้วย เออจะเข้า ๓ ปีแล้วที่พี่ต้องไปศาลเจ้าพ่อคนเดียว เจ้าไปส่งพี่ที่ลำกระโดงด้วยกันไม่ได้หรือ

ความหลังที่เคยร่วมรักกันและความสงสารทำให้เรียมเดินตามเจ้าขวัญไปง่าย ๆ เดินลัดหลังคอกอีเกแล้วออกทุ่ง เธอไม่หวาดกลัวอะไรเลยจนนิดเดียวเพราะเธอกำลังเดินมากับอ้ายเจ้าทุ่งบางกะปิที่ลือเลื่อง

พอสุดซีกนาจะข้ามไปฟากนาเจ้าขวัญมีลำกระโดงคั่น น้ำกำลังขึ้นเจิ่งและเจ้าขวัญต้องลุยข้ามไป เรียมอยุดยืนดูน้ำแล้วใจหาย เจ้าขวัญจะต้องข้ามไป และเดินไปอีกไกลกว่าจะถึงโรงนามันที่เห็นอยู่ลิบ ๆ โน้น

เจ้าขวัญก้าวลงลำกระโดง ใจคอปั่นป่วนอาลัยเจ้าเรียม มันถอนขาขึ้นแล้วซุดนั่งลงถอนใจทอดตาดูน้ำ

เรียมนั่งลงข้าง ๆ ตัว ดูเหมือนเธอจะรู้ว่าเจ้าขวัญกำลังคิดอะไรอีก กลัวภัยที่จะข้ามลำกระโดงนิดหนึ่งเท่านี้หรือ ๆ ครั่นคร้ามต่อหนทางที่จะต้องไปคนเดียวข้างหน้า ต้องผิดแน่-เพราะเจ้าน้ำเจ้าทุ่งคืออ้ายขวัญ อ้ายหนุ่มหน้าสวยใจแกล้วของทุ่งบางกะปิ

"คิดอะไรหรือพี่ขวัญ"

๕๔