พล่านอยู่ในหัวใจ ความรักกำลังก้าวออกจากสายตาเจ้าขวัญหนุ่มทุก ๆ ขณะ
ในน้ำซึ่งน่าจะเนื้อเย็น แต่เจ้าเรียมหน้าตาร้อนผ่าว ๆ รู้สึกจนกระทั่งว่าช่วงแขนของเจ้าขวัญ หน้าอกหนา ๆ ของเจ้าขวัญที่แช่น้ำอยู่ด้วยกัน ก็ยังร้อนอบอุ่นไปด้วยความเผลอไผลเหมือนต้องอำนาจมนต์ดลจิตผีครอบผีอำ
อึดอัดอยู่ครู่หนึ่ง พอมีสติก็จะผละ แต่เจ้าขวัญรัดไว้และมองด้วยสายตาที่เร่งเร้าเหมือนหนึ่งจะให้แม่เรียมเข้าใจในปัญหาแรมปี
"พักเสียก่อนเถิด แม่เรียม พักเสียให้หายเหนื่อย แล้วฉันอุ้มส่งขึ้นตลิ่งเอง" เสียงเจ้าขวัญอ่อนโอนผิดเคย หน้าตาซื่อสัตย์ยิ่งขึ้นประหนึ่งจะเปนเพื่อนตายของเจ้าเรียมทุกขณะ
"พี่ขวัญ"
"จ๋า เรียม"
"อ้า―ปล่อยเถิดจ้ะ ปล่อยให้ฉันยืนมั่งเถิด"
"อย่าเลย เลนทั้งนั้น แขยงตีนเปล่า ๆ อยู่เฉย ๆ เช่นนี้เปนไรไปเล่า เรียมเอ๋ย"
"อึดอัดจ้ะ พี่ขวัญ โธ่ แล้วนี่ถ้าใครพายเรือผ่านมาเห็นเข้า ฉันจะทำยังไรล่ะนี่" เจ้าเรียมรุ่นสำนึกตัว หลบหลีกสายตาไม่ให้พบกับเจ้าขวัญ
"เงยหน้าหน่อยเถิด เรียม ฉันจะพูดอะไรด้วยสัก ๒–๓ คำ"
กระแสเสียงเจ้าขวัญบอกจะพูดเรื่องอะไร เรียมจึงรู้ตัวว่า เจ้ากำลังชะตาคับขัน เกิดใจคอหวั่นไหวตกประหม่า
เจ้าหนุ่มบ้านใกล้ปล่อยมือที่เกาะตลิ่ง แล้วเชยคางขึ้น เห็นเรียมหลับตาปิดสนิท ความสมบูรณ์และทีท่าบ่ายเบี่ยงเอี่ยงอายของเจ้าแทบจะบดหัวใจของเจ้าขวัญให้ละลายไปกับน้ำ
"เรียม―แม่เรียมเอ๋ย เออ―ขอให้ฉันได้ตายกับแม่เรียมในลำน้ำนี้เถิด―รักจริง รักนัก เรียม ข้ารักเจ้านัก"
เจ้าขวัญมิได้พูดอะไรอีก จูบลงไป จูบเสียเหมือนอย่างจะจงใจเคี่ยวเข็ญให้เนื้อเจ้าเรียมนั้นแหลกเหลว ทั้งแก้ม คาง คิ้ว คอ เจ้าขวัญมิได้เว้น การดิ้นรนบ่ายเบี่ยงของเรียมเหมือนลมพัดกองเพลิงในอกเจ้าขวัญให้คุยิ่งขึ้น มันจูบซ้ำจูบเติมอย่างไม่เบื่อ